เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน (Bedroom Furniture)

• เตียงนอน (Bed) - การเลือกเตียงนอนไม่ยาก เพียงแค่เราต้องคำนึงว่าห้องเรามีขนาดเท่าไร และต้องการเตียงนอนที่เหมาะกับจำนวนกี่คน ถ้านอนคนเดียว ห้องมีพื้นที่ไม่เยอะ หรือเป็นห้องเด็ก ๆ แนะนำให้เลือกเตียงนอนขนาด 3 ฟุต (Single Size) หรือ 3.5 ฟุต (Twin Size) ถ้าขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย พอเหมาะกับการนอนสองคน ก็ควรเลือกเป็นขนาด 5 ฟุต (Queen Size) หรือถ้าเป็นขนาดครอบครัว พื้นที่ห้องใหญ่ ขนาดเตียง 6 ฟุต (King Size) สำหรับนอน 3 คน ก็ไม่อึดอัด หากเลือกขนาดได้แล้ว เลือกดีไซน์ก็ไม่ยาก ชอบโทนสีแบบไหน แบบมีใต้เตียงดีไหม เตียงไม้หรือเตียงเหล็กดี แค่เลือกในแบบที่ใช่ ถูกใจแบบไหนก็จัดเลย
• โต๊ะเครื่องแป้ง (Dressing Table) - เฟอร์นิเจอร์แต่งห้องอีกชิ้น เรียกได้ว่าชิ้นนี้เอาใจสาว ๆ ที่ชอบแต่งหน้าทำผม เสริมความมั่นใจหน้ากระจกสุด ๆ นั่นก็คือโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ก็มีให้เลือกหลายแบบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบที่มีกระจกทรงกลม ทรงเหลี่ยม แบบครึ่งบาน หรือแบบเต็มบาน โต๊ะเครื่องแป้งแบบนั่ง โต๊ะเครื่องแป้งแบบยืน หรือถ้าเราเป็นคนที่มีของเยอะแยะ ก็ควรเลือกโต๊ะเครื่องแป้งที่มีลิ้นชัก มีช่องเก็บของหลายช่อง เพื่อให้ดูเป็นระเบียบ หยิบจับใช้งานได้ง่าย ไม่วางกองรก ๆ ส่วนเรื่องสไตล์ไม่ต้องกังวล เพราะไทวัสดุ คัดมาแล้วกับโต๊ะเครื่องแป้งดีไซน์สวย งามดี อัพลุคให้ห้องของคุณปัง ๆ ได้อย่างลงตัวจากหลากหลายแบรนด์
• ตู้เสื้อผ้า (Wardrobe) - อีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์อย่างตู้เสื้อผ้าที่ถูกตั้งคำถามว่าถ้าเราจะซื้อนอกจากเรื่องของสีสัน ขนาด ประตูเปิดมีกี่บานแล้ว เราต้องคำนึงถึงอะไรอีกบ้างนะ? เราได้แบ่งวิธีการเลือกซื้อไว้คร่าว ๆ แล้ว ดังนี้
  • ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน จะเหมาะกับห้องที่มีพื้นที่น้อย แต่ข้อที่ต้องจำยอมอย่างหนึ่งคือราคาที่สูงกว่า และถ้าจะติดตั้งก็ต้องเลือกช่างฝืมือดี ๆ
  • ตู้เส้อผ้าแบบลอยตัว แน่นอนว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าแบบบิวท์อินแน่นอน ไม่ต้องจ้างช่างให้ยุ่งยาก แต่ข้อเสียก็คือ มันอาจจะกินพื้นที่ภายในห้องไปหน่อยสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด
  • ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน จะให้ความหรูหรา เปิดใช้งานง่าย ดูเป็นระเบียบ และไม่ต้องใช้พื้นที่ในการเปิดประตูกว้าง สามารถเปิดใช้ได้ในพื้นที่จำกัด แต่ข้อเสียคือ การเลื่อนใช้งานบ่อย ๆ ก็อาจจะมีเรื่องล้อตกรางได้เช่นกัน
  • ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด ประตูบานเปิดจะสามารถเปิดได้จนสุด เห็นเสื้อผ้าในตู้ได้อย่างชัดเจน และเหมาะกับห้องที่มีพื้นที่เยอะ ไม่มีปัญหาเรื่องบานตก แต่ข้อเสียก็คือ ไม่เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก เพราะจะทำให้เปิดได้อย่างไม่สะดวก
  • ตู้เสื้อผ้าลักษณะเปิดแบบโล่งไม่มีประตูใด ๆ ข้อดีก็คือ ทำให้เรามองเห็นเสื้อผ้าทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องเปิดประตู แต่ก็ต้องระวังเรื่องฝุ่นละอองเข้าตู้เสื้อผ้ากันหน่อย

จะเห็นได้ว่าตู้เสื้อผ้าแต่ละดีไซน์มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน เพราะฉะนั้น หากเลือกซื้อก็ต้องคำนึงถึงลักษณะห้อง ขนาดพื้นที่ และลักษณะการใช้งานของตัวเอง เพื่อที่จะได้ตู้เสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ทั้งการตกแต่งและการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับเราจริง ๆ