เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum Cleaner)

1. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือเรียกอีกอย่างว่า "หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ" (Robot Vacuum Cleaner) เป็นเครื่องดูดฝุ่นยอดนิยมที่สุดแล้วในปัจจุบัน เหมาะกับแม่บ้านพ่อบ้านยุคใหม่ไม่ค่อยมีเวลามากในการทำความสะอาด สั่งงานง่ายผ่าน Application บนมือถือของคุณได้ทันทีแม้ไม่ได้อยู่ที่บ้าน อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลา ไม่เปลืองแรง เข้าถึงทุกซอกทุกมุมหรือพื้นที่ที่คุณเข้าไม่ถึงได้ เช่น ใต้เตียงนอน ใต้โซฟา 
2. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย (Cordless Vacuum Cleaner) เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบชาร์จไฟ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยแบตเตอรี่ ชาร์จเพียง 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 4 - 6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ในแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ที่ผลิตออกมา) โดยมีคุณสมบัติการนำไปใช้งานได้ทุกที่ทั้งในพื้นที่กว้างและพื้นที่แคบ ไม่มีสายไฟเกะกะรบกวนขณะใช้งาน น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก ดังนั้นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายจึงได้รับความนิยมนำไปใช้งานภายในบ้าน สำนักงาน คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์  
3. เครื่องดูดฝุ่นมือถือ (Handheld Vacuum Cleaner) เป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย รูปทรงทันสมัย มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบไร้สายและแบบมีสาย โดยมีคุณสมบัติใช้ดูดได้ทั้งพื้นผิวที่แห้งและเปียกได้อย่างลื่นไหล ถังเก็บฝุ่นและไส้กรองสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ เหมาะกับแม่บ้านยุคใหม่ที่ต้องการทำความสะอาดพรม โซฟา เตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน โต๊ะ ภายในรถยนต์ พื้น หรือตามซอกมุมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว 
4. เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องเก็บฝุ่น (Dust Box Vacuum Cleaner) เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องเก็บฝุ่น โดยมีระบบการทำงานดูดฝุ่นเข้าไปเก็บไว้ในกล่องพลาสติกของตัวเครื่อง เมื่อใช้งานเสร็จก็สามารถถอดออกไปเททิ้งแล้วทำความสะอาดได้เลยทันที หมดปัญหาลืมทิ้งและไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยมากเท่าเครื่องดูดฝุ่นแบบมีถุง 
5. เครื่องดูดฝุ่นแบบมีถุง (Bagged Vacuum Cleaners) เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีถุงสำหรับเก็บฝุ่น โดยมีระบบการทำงานดูดฝุ่นเข้าไปเก็บไว้ในถุงสำหรับเก็บฝุ่นที่ใส่ไว้ในตัวเครื่อง เมื่อฝุ่นเต็มก็นำฝุ่นไปเททิ้ง หรือซักทำความสะอาดได้เลย ซึ่งการใช้งานเหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ เพราะเครื่องดูดฝุ่นแบบถุงมีกำลังแรงดูดสูง ใช้งานง่าย 

• ขจัดคราบสกปรกบนหัวแปรง ควรหมั่นถอดหัวแปรงออกมาทำความสะอาด เพื่อขจัดสิ่งติดค้างออก ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังการใช้งาน ช่วยทำให้เครื่องดูดฝุ่นสามารถกำจัดฝุ่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 
• จัดการกับถุงเก็บฝุ่น ควรนำออกมาเทฝุ่นทิ้งทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ เพราะถุงเก็บฝุ่นมีผลต่อการไหลเวียนของอากาศภายในนั้นเเละอาจจะทำให้ตัวเครื่องดูดฝุ่นเกิดความร้อนสูงเกินไปขณะใช้งาน 
• ท่อดูดฝุ่น ควรตรวจสอบการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ พอใช้งานไปสักระยะเวลานึง อาจจะเกิดการเสื่อมสภาพได้ เช่น มีการรั่ว หลวม หรือขาดได้ ถ้าเกิดกรณีนี้ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะเป็นเหตุทำให้ท่อดูดฝุ่นมีสุญญากาศไม่เพียงพอ 
• หมั่นตรวจเช็กสภาพเครื่องดูดฝุ่นอยู่เสมอ เพราะแต่ละรุ่นแต่ละชนิดก็มีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป อีกทั้งไม่ควรละเลยจุดพื้นฐานอย่าง ล้อเครื่องดูดฝุ่น หรือ ที่เก็บสายไฟ จนไปถึงบางจุดอย่างฟิลเตอร์ กลไกการทำงานต่าง ๆ เพื่อให้อุปกรณ์พร้อมใช้งาน และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น