เฟอร์นิเจอร์อย่างตู้เสื้อผ้าถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับบรรดาผ้าของเราให้แขวนอยู่ในตู้ได้อย่างเป็นระเบียบ หยิบใช้งานได้ง่ายมากกว่าการพับถม ๆ เก็บไว้ตามลิ้นชักหรือชั้นวาง ซึ่งตู้เสื้อผ้าสมัยนี้มีอยู่หลากหลายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะขนาด ประเภท ดีไซน์ หรือแม้แต่ฟังกชันการใช้งาน เรียกได้ว่ากว่าจะได้ตู้เสื้อผ้าที่ถูกใจก็ชวนคิดหนักอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าเรื่องต้องรู้ก่อนการตัดสินใจซื้อตู้เสื้อผ้ามีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้ตู้เสื้อผ้าแบบที่ใช่ โดนใจทั้งสไตล์และฟังก์ชันการใช้งาน 

ตู้เสื้อผ้าขนาดเท่าไรที่เหมาะกับห้องของเรา  

    ขนาดตู้เสื้อผ้าถือเป็นอันดับต้น ๆ ที่ต้องให้ความสนใจ เพราะฉะนั้น เราต้องดูพื้นที่ห้องของเราก่อนว่าแคบหรือกว้างแค่ไหน ควรวัดขนาดคร่าว ๆ ในบริเวณที่ต้องใช้วางตู้เสื้อผ้าก่อนการซื้อ เพื่อที่ซื้อมาแล้วจะได้วางอย่างพอดี ไม่ขวางทางเดิน หรือพื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ รวมถึงขนาดหรือช่องแขวนข้างในตู้เสื้อผ้าเองก็สำคัญ หากจะใช้แขวนเดรส หรือกางเกงขายาว ราวแขวนข้างในตู้ก็ควรจะต้องสูงเสียหน่อย เพื่อที่ชุดเสื้อผ้าจะได้ไม่เสียทรงเวลานำไปสวมใส่ 

    ถ้าพูดถึงตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน แน่นอนว่าความสวยงามย่อมมีมากกว่า ให้ความหรูหรา ช่วยประหยัดพื้นที่ เหมาะกับห้องที่มีขนาดพื้นที่จำกัด หรือผู้ที่ชอบแต่งห้องสไตล์มินิมอล แต่ข้อจำกัดคือเรื่องการติดตั้งมีความซับซ้อนไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ตามความต้องการ รวมถึงราคาโดยรวมต่อพื้นที่ค่อนข้างสูงกว่า อีกทั้งไม่สามารถติดตั้งได้เอง ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญติดตั้งเท่านั้น 

สำหรับตู้ลอยตัว แน่นอนว่าติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ หากห้องเรามีขนาดเล็ก เวลาเปิดตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดดึงเข้าหาตัว อาจจะขวางทางและทำให้พื้นที่แคบลงยิ่งกว่าเดิมได้ ส่วนข้อดีที่เห็นได้อีกอย่างคือ หากคุณย้ายบ้านก็สามารถขนไปพร้อมกับคุณได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่  

รูปแบบประตูของตู้เสื้อผ้า  

    ตู้เสื้อผ้าที่เราเห็นกันบ่อย ๆ จะมี 1-2 บานประตูเปิด แต่จะเห็นได้ว่าบางดีไซน์ก็มีมากกว่า 3 บานด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของตู้เสื้อผ้าด้วย ยิ่งจำนวนประตูมากเท่าไร ขนาดตู้เสื้อผ้าก็ย่อมใหญ่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วอย่าลืมตรวจสอบขนาดห้องของตัวเองก่อนซื้อด้วยนะ นอกจากจำนวนบานประตูแล้วก็ยังมีเรื่องของดีไซน์รูปแบบการเปิดของประตู เช่น บานประตูแบบเลื่อน ประตูประเภทนี้จะเปิดใช้งานได้ง่าย ให้ความหรูหรา ไม่เปลืองพื้นที่เมื่อเปิดออก แต่ข้อเสียคือการเลื่อนใช้งานบ่อย ๆ ก็อาจจะเกิดปัญหาล้อตกรางได้ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ก็ต้องเลือกที่แบรนด์ดี ๆ เสียหน่อย เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานจะได้นานขึ้น  อีกดีไซน์คือตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดปกติ คือแบบที่ดึงเข้าหาตัว บานประตูแบบนี้จะสามารถเปิดได้จนสุด ไม่บังเสื้อผ้า ทำให้เรามองเห็นเสื้อผ้าได้ชัดเจน แต่จะไม่เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่แคบ เพราะจะเปิดหยิบเสื้อผ้าได้ไม่สะดวก  ดีไซน์สุดท้ายคือตู้เสื้อผ้าแบบโล่ง คือไม่มีประตูปิดกั้นใด ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเปิด เห็นเสื้อผ้าที่แขวนได้อย่างชัดเจน เสื้อผ้าไม่เหม็นอับ ระบายอากาศได้ดี แต่ข้อเสียคือฝุ่นละอองหรือแมลงจะเข้าได้ง่าย 

    วัสดุที่ใช้ผลิตตู้เสื้อผ้าจริง ๆ แล้วมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น โครงเหล็ก พลาสติก ไม้แท้ ไม้เทียม หรือแม้แต่ตู้เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าแล้วเสริมโครงเหล็กก็ยังมี แต่ถ้าให้พูดถึงความนิยมตู้เสื้อผ้าไม้จะถูกเลือกซื้อมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นไม้จริง ที่ให้ความหนาแน่นทนทานสูง หรือไม้เทียมเช่นไม้ MDF แม้ความทนทานอาจจะน้อยกว่าไม้จริง แต่เมื่อเป็นไม้สังเคราะห์จึงสามารถทำสีได้อย่างหลากหลายและมีราคาถูกกว่า หากต้องการเพิ่มการทนความชื้นมากขึ้นอีกก็เพียงนำไปปิดผิวเมลามีนเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุชนิดใด อายุการใช้งานจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคลเช่นกัน

    หวังว่าตัวช่วยในการเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าหลัก ๆ 4 ข้อนี้จะทำให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่นอกเหนือจากสิ่งที่เรานำเสนอ ก็ยังมีเรื่องของสีสัน ลวดลาย ซึ่งเป็นความชอบส่วนบุคคล เพราะฉะนั้น หวังว่าคุณจะได้ตู้เสื้อผ้าที่ถูกใจทั้งฟังก์ชันการใช้งานและสไตล์ แต่ถ้าอยากให้ตู้เสื้อผ้าใช้งานได้ยาวนานก็อย่าลืมดูแลรักษาดี ๆ นะ จะได้ช่วยเซฟเงิน ไม่ต้องซื้อใหม่บ่อย ๆ  

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับไทวัสดุศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่ายตู้เสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายจากแบรนด์ชั้นนำ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว เลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308