ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี
logo_mobile
search
เลือกสาขา
กรอบรูป
รายการที่ 1 - 48 จาก 191 รายการ
กรอบรูปพลาสติก Plain (Q) KASSA HOME รุ่น CRC16706-0810 (black) ขนาด 22 x 1.5 x 27 ซม. สีดำ
-20%
สาขานี้หมดชั่วคราว
SANDI
กรอบรูปพลาสติก Plain (Q) KASSA HOME รุ่น CRC16706-0810 (black) ขนาด 22 x 1.5 x 27 ซม. สีดำ
รหัสสินค้า: 60334538
(1)
฿
฿110
88
/EACH
compare
location pin red
ดูสาขาที่มีสินค้านี้
กรอบภาพพลาสติกติดผนัง พระพุทธชินราช ANCHALEE ขนาด 15 x 21 นิ้ว สีดำ
-23%
ANCHALEE FRAME
กรอบภาพพลาสติกติดผนัง พระพุทธชินราช ANCHALEE ขนาด 15 x 21 นิ้ว สีดำ
รหัสสินค้า: 60368328
฿
฿518
398
/EACH
compare

กรอบรูป (Frame)

ผนังห้องโล่ง ๆ ไร้สีสัน โต๊ะทำงานอันว่างเปล่า หรือชั้นวางแสนจืดชืดจะดูดีมีลูกเล่นขึ้นมา เพียงเราหารูปภาพสุดประทับใจ และกรอบรูปดีไซน์ไม่ซ้ำใครมาประดับไว้ ซึ่งเป็นทริคที่ง่ายแสนง่ายในการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ลองคิดดูว่า จะดีแค่ไหนหากเราได้ตกแต่งบ้านและเก็บความทรงจำไปพร้อมกัน หรืออยากให้มุมโปรดมีความอบอุ่น น่าหลงใหล ร้อนแรง หรูหรา น่าค้นหา หรือดูดิบเท่ ก็เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายด้วยกรอบรูปเพียงอันเดียว เห็นแบบนี้แล้วไทวัสดุเราเลยหาคำตอบมาให้ว่า กรอบรูปมีกี่ประเภท ควรเลือกแบบไหนดี โดยแบ่งเป็น 6 ประเภท ดังนี้
  1. กรอบรูปไร้ขอบ (Frameless) บางคนเรียกกรอบรูปชนิดนี้ว่า กรอบลอย เป็นกรอบรูปไซซ์เท่ากับภาพเป๊ะ ๆ ไม่มีการใส่กระจกบดบังรูปภาพ แต่จะเป็นการพิมพ์ภาพลงลงกระดาษโฟโต้ แล้วนำไปเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อความทนทาน หากต้องการสีสันเพิ่มเติมบางคนอาจนำไปติดขอบด้านข้างด้วยเทปสีต่าง ๆ รูปภาพและกรอบรูปที่ได้มาจะคล้ายภาพเขียนบนแคนวาส ดูสวยงามทันสมัย เคลื่อนย้ายง่าย มักเห็นตามงานแต่ง หรือซื้อเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญ
  2. กรอบรูปไม้ (Wooden Frame) เป็นกรอบรูปที่มีความทนทาน ช่วยเสริมภาพถ่าย รูปภาพ และมุมจัดวางให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือให้ความรู้สึกอบอุ่นและกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันกรอบรูปไม้ไม่ได้มีแค่หน้าตาเรียบง่ายด้วยลายไม้จริง ๆ แต่สามารถพิมพ์ลวดลายลงบนลายไม้ได้ หรือเสริมเมาท์บอร์ด (Mount Board) ซึ่งเป็นกระดาษแข็งที่ช่วยให้ภาพไม่ติดกับกระจก และช่วยเพิ่มมิติให้กับชิ้นงานมากยิ่งขึ้น ทั้งยังถูกนำไปดีไซน์เป็นกรอบรูปหลุยส์ ซึ่งเป็นศิลปะตะวันตกที่ให้ความวินเทจและหรูหรา ให้รายละเอียดและเนื้องานที่สวยงามน่าหลงใหลอีกด้วย
  3. กรอบรูปอะลูมิเนียม (Aluminium Frame) บางคนเรียกว่า กรอบรูปโลหะ มีจุดเด่นเรื่องความแข็งแรงทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี ส่วนดีไซน์ก็โดดเด่นไม่น้อยหน้าใคร เพราะมีความมันเงาวาว น้ำหนักเบา สามารถดีไซน์ได้หลากหลายรูปแบบ โมเดิร์นก็ได้ หรูหราก็ดี โรแมนติกก็มี หรือมินิมอลก็เรียบง่ายน่าใช้งาน ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในมิวเซียม หรืออาร์ตแกลลอรีดี ๆ สักแห่ง
  4. กรอบรูปอะคริลิก  (Acrylic Frame) หลายคนคงคุ้นตากับกรอบรูปประเภทนี้ตามอีเวนต์ หรือนิทรรศการภาพถ่ายต่าง ๆ ซึ่งเป็นกรอบรูปแบบใสมาประกบกัน ช่วยให้ผู้ชมเห็นภาพถ่ายหรือผลงานชิ้นนั้นอย่างเต็มตา และเห็นรายละเอียดบนรูปภาพได้อย่างเต็มที่ หากนำมาติดตั้งหรือจัดวางภายในบ้าน ก็ช่วยให้พื้นที่นั้น ๆ ดูสวยงาม เรียบง่าย ทันสมัย และยังเช็ดทำความสะอาดง่ายด้วยผ้าสะอาด ไม่ต้องเปลืองแรงมาก แต่อาจต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นได้
  5. กรอบรูปกระดาษแข็ง (Cardboard Frame) ขึ้นชื่อว่ากระดาษ เรื่องความแข็งแรงคงทนอาจจะไม่สู้กรอบรูปประเภทอื่น จึงเหมาะกับการนำไปใส่กับรูปภาพขนาดกะทัดรัด มีข้อดีคือน้ำหนักเบา ไม่ทำให้กระจกหรือพลาสติกใสบนภาพเกิดรอยขูดขีด สามารถพิมพ์โลโก้พร้อมข้อความได้ นิยมใช้กับงานประชุมสัมมนา อีเวนต์ต่าง ๆ หรือแจกให้เป็นที่ระลึกบริษัท วันครบรอบ ฯลฯ
  6. กรอบรูปพลาสติก (PLASTIC FRAME) ถือเป็นกรอบรูปที่ฮอตฮิตสุด ๆ เพราะหาซื้อง่าย มีขนาดให้เลือกตามมาตรฐาน แถมคุณภาพยังทนทานแข็งแรง น้ำหนักเบา หยิบถือได้สะดวก มาพร้อมดีไซน์และสีสันที่มีให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังใช้งานกับวัสดุอะคริลิก กระจกใส หรือกระจกตัดแสงได้อย่างลงตัว 

นอกจากประเภทกรอบรูปที่กล่าวไป จริง ๆ แล้วการจะมีกรอบรูปที่ถูกใจสักชิ้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว เราสามารถเลือกกรอบรูปที่เป็นตัวเรา สะท้อนตัวตน หรือดีไซน์ให้มีหน้าตาแปลกแหวกแนวได้ตามใจชอบ เพราะกรอบรูปหนึ่งชิ้นจะอยู่คู่ภาพอันน่าประทับใจของคุณ และอยู่คู่มุมโปรดของคุณไปอีกนานแสนนาน

เลือกจัดวางให้ถูก เสริมความโดดเด่นให้กับมุมโปรด
เมื่อเราเลือกได้แล้วว่ากรอบรูปประเภทไหนที่ใช่ ก็อย่าลืมคำนึงถึงการจัดวาง และการใช้งานด้วย เพราะถ้าคุณซื้อกรอบรูปแบบแขวนไปตั้งโต๊ะ อาจจะต้องยุ่งยากในการหาตัวช่วยเสริมเพื่อจัดวาง หรือหากเราซื้อกรอบรูปตั้งโต๊ะไปติดผนัง ก็ต้องรื้อส่วนประกอบต่าง ๆ ออกเพื่อให้นำไปติดผนังได้ ซึ่งอาจทำให้รูปภาพเกิดความเสียหาย เราจึงขอพูดถึงข้อดี-ข้อเสียของการจัดวางทั้ง 2 รูปแบบสักเล็กน้อย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจหากคุณมีไอเดียริเริ่มในการตกแต่งบ้าน 
  • แบบติด/แขวนผนัง ข้อดีเลยคือช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน เพราะการแขวนบนผนังทำให้รูปภาพเหล่านั้นไม่มาเกะกะบนโต๊ะทำงาน หรือชั้นวางที่อาจมีของชิ้นสำคัญวางอยู่ แต่ข้อเสียคือต้องมีการเจาะผนังหรือติดกาวสำหรับแขวน ดังนั้นหากต้องการติดตั้ง จะต้องคิดอย่างถี่ถ้วนหากไม่อยากมานั่งซ่อมแซมผนังบ้าน ส่วนการยกออกมาปัดฝุ่นทำความสะอาด ก็ต้องระวังเป็นพิเศษหากกรอบรูปชิ้นนั้นมีน้ำหนักมาก
  • แบบตั้งโต๊ะ ช่วยเติมเต็มมุมโล่ง ๆ ให้ดูดีขึ้นในทันตา จัดวางง่าย เหมาะกับการจัดวางทุกพื้นที่ภายในบ้าน แต่ถ้าหากกรอบรูปมีขาตั้งที่ไม่ทนทาน กรอบรูปอาจล้มหรือเกิดความเสียหายได้ จึงจำเป็นต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับน้ำหนักของภาพ และเหมาะสมกับพื้นที่จัดวาง

สุดท้ายแล้วการจัดวางกรอบรูปตามพื้นที่ต่าง ๆ ก็ถือเป็นศิลปะและสไตล์ส่วนตัว ไม่มีอะไรผิดถูก คีย์สำคัญเลยคือแค่ตอบตัวเองให้ได้ว่าเราชอบอะไร ต้องการกรอบรูปแบบไหน แล้วใส่ความเป็นตัวเองลงไปให้เต็มที่ เพียงเท่านี้มุมโปรดที่เคยธรรมดาก็จะมีบรรยากาศที่ดี น่ามอง และลงตัวด้วยสุนทรียภาพมากกว่าที่เคย

ช้อปปิ้งสินค้า "กรอบรูป" ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับ ไทวัสดุ
สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่ายกรอบรูปที่ตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งแบรนด์ KASSA HOME และ SANDI สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว เลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308

อ่านเพิ่มเติม