"หลังติดตั้งโซลาร์เซลล์" ต้องดูแลอย่างไรเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. การบำรุงรักษาแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels) 
2. การบำรุงรักษาอินเวอร์เตอร์และระบบควบคุมต่าง ๆ (Inverter and Controller) 
3. การบำรุงรักษาระบบสายไฟและระบบเชื่อมต่อต่าง ๆ (Wiring and Connections) 
4. การบำรุงรักษาแบตเตอรี่ (Battery, The System with Battery Back-up) 

การบำรุงรักษาแผงโซลาร์เซลล์

• แผงโซลาร์เซลล์ควรมีการตรวจเช็กสภาพ และทำความสะอาดทุก 6 เดือน แต่ถ้ารู้สึกว่าประสิทธิภาพการทำงานของโซลาร์เซลล์ลดลง ก็สามารถทำความสะอาดได้เช่นกัน 
• การทำความสะอาดฝุ่นละอองและคราบสกปรกบนแผงโซลาร์เซลล์ สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงล้างทำความสะอาดหรือฉีดพ่นด้วยน้ำสะอาด และเช็ดคราบสกปรกออก หากคราบสกปรกดังกล่าวเป็นพวกยางหรือขัดออกยาก ให้ลองใช้น้ำเย็นล้างและขัดด้วยฟองน้ำ 
• ในการทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์ ห้ามใช้ของมีคม สก็อตไบร์ท หรือแปรงที่มีขนแข็ง รวมถึงน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงมาทำความสะอาด เพราะจะทำให้เกิดรอยที่ผิวของแผงโซลาร์เซลล์ได้ ถ้าเกิดรอย รอยนั้นจะบดบังแสงอาทิตย์ ทำให้ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ลดลง 
• ช่วงเวลาที่เหมาะกับการทำความสะอาดโซลาร์เซลล์คือช่วงเช้า หรือช่วงเย็น เพราะเป็นช่วงที่โซลาร์เซลล์ไม่ได้รับแสงอาทิตย์ ตัวแผงจะไม่ค่อยร้อน ทำให้ทำความสะอาดแผงได้สะดวก 

การบำรุงรักษาอินเวอร์เตอร์และระบบควบคุม

• ตัวแปลงกระแสไฟฟ้า หรือ อินเวอร์เตอร์ และระบบควบคุมต่าง ๆ ของระบบโซลาร์เซลล์ มีวิธีการตรวจเช็กสภาพเบื้องต้นง่าย ๆ เพียงแค่ดูว่ามีฝุ่นเกาะสะสมหรือไม่ ถ้ามีควรใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดให้อุปกรณ์เหล่านี้อยู่ในภาพที่ไร้ฝุ่น 
• ถ้าต้องการตรวจสอบให้ละเอียดขึ้น ให้ใช้ไฟฉายส่องดูตามรอยต่อภายในอุปกรณ์ว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ หากพบว่ามีจุดที่ชำรุด หรือไม่พร้อมใช้งาน เช่น เกิดรอยแตกของอุปกรณ์ สายไฟขาด สายไฟหลุด ให้ทำการแก้ไขให้รวดเร็วที่สุด  
• อินเวอร์เตอร์และระบบควบคุมอยู่ในรูปแบบของกล่อง ดังนั้นเราจึงต้องระแวดระวังไม่ให้เป็นแหล่งที่แมลง หนู หรือสัตว์ต่าง ๆ มาทำรัง หากพบให้กำจัดทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบมีปัญหาในอนาคต 

การบำรุงรักษาระบบสายไฟและระบบเชื่อมต่อ

• การตรวจสอบระบบสายไฟและระบบเชื่อมต่อ ถือเป็นอีกจุดสำคัญที่ไม่ควรพลาด โดยควรตรวจเช็กว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือเปล่า มีรอยแตก รอยร้าว รอยไหม้ รอยกัดกร่อนบนสายไฟ เกิดการเสื่อมสภาพของฉนวนและท่อหรือไม่ สายดินยังอยู่ดีไหม หรือการเกิดประกายไฟตอนสับสวิตช์ไฟหรือเปล่า ถ้าคุณพบความผิดปกติให้รีบแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่มาติดตั้งให้มาแก้ไขโดยด่วน 
• การดูแลบำรุงรักษาระบบสายไฟฯ ควรตรวจเช็กไม่ต่างจากการดูแลแผงโซลาร์เซลล์ นั่นคือทุก 6 เดือน ซึ่งเราขอแนะนำว่าให้ตรวจเช็กสภาพก่อนฤดูฝน หรือช่วงที่อาจเกิดมรสุม เพราะจะทำให้การซ่อมบำรุงนั้นเป็นไปได้ยากกว่า 

การบำรุงรักษาแบตเตอรี่

• แบตเตอรี่ที่ดีต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ดูสะอาด ไม่มีคราบสกปรก ไร้รอยกัดกร่อน หรือการรั่วของสารละลายอิเล็กโทรไลต์ภายในแบตเตอรี่  
• การตรวจเช็กสภาพของแบตเตอรี่  หลัก ๆ เราก็จะสังเกตรอยแตกร้าวบริเวณก้อนแบตเตอรี่ ดูปริมาณสารละลายอิเล็กโทรไลต์ว่าน้อยไปหรือไม่ มีรอยกัดกร่อนบริเวณขั้วแบตเตอรี่หรือเปล่า รวมถึงเช็กระดับแรงดันของแบตเตอรี่ ฯลฯ ซึ่งถ้าเกิดความผิดปกติ สามารถแก้ปัญหาได้ดังนี้ 
• ถ้าปริมาณสารละลายอิเล็กโทรไลต์น้อยเกินไป ให้เติมเข้าไปเพิ่มให้อยู่ในระดับที่ใช้งานปกติ 
• ถ้ามีรอยกัดกร่อนบริเวณขั้วแบตเตอรี่ ซึ่งโดยทั่วไปจะมาในลักษณะคราบสีขาว ให้ทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง 
• ควรมีการตรวจสอบระดับแรงดันไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีความผิดปกติให้ทำการตรวจเช็ก หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นให้ไวที่สุด

ช้อปปิ้งสินค้า โซลาร์เซลล์ ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ