ไขควงแต่ละชนิด เหมาะกับงานอะไรบ้าง
ไขควง เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่นิยมมีติดบ้าน ใช้สำหรับถอดแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ หรือขันน็อตตัวผู้ (สกรู) เพื่อติดตั้งประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทุกบ้านจึงจำเป็นที่จะต้องมีไขควง
ไขควง 1 ด้าม มีส่วนประกอบอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ ด้ามจับ, ก้านไขควง และปากไขควง วิธีการใช้งานก็ง่ายแสนง่าย แค่ออกแรงหมุนบริเวณด้ามจับ เพื่อเป็นการส่งแรงบิดไปขันหรือคลายสกรูออกจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามที่เราต้องการ อาศัยแค่การออกแรงบิดไม่มีความยุ่งยากใด ๆ แต่ส่วนสำคัญที่ต้องสังเกตุให้ดีก่อนการใช้งานก็คือ ปากไขควง เพราะปากไขควงมีรูปแบบ และลักษณะเฉพาะ รวมไปถึงขนาดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราสามารถจำแนกไขควงออกเป็น 4 ประเภทพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
1. ไขควงปากแบน
ไขควงปากแบนเป็นรูปแบบของไขควงที่น่าจะคุ้นตา และนิยมใช้กันมากที่สุด มีลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือปากไขควงแบนยาวคล้ายเครื่องหมายลบ ใช้ร่วมกับสกรูที่มีหัวผ่าเส้นเดียว ข้อควรระวังของการใช้ไขควงปากแบนก็คืออย่าออกแรงในการบิดมากเกินไป เพราะอาจทำให้ปากไขควงลื่นไถลออกด้านข้าง เป็นเหตุให้หัวสกรูและไขควงเสียหายได้ รวมไปถึงไม่ควรนำไขควงหัวแบนมาใช้แทนสิ่วครับ
ไขควงปากแบนด้ามยางปลายแม่เหล็ก STANLEY รุ่น STMT60821-8 ขนาด 5 มม. x 3 นิ้ว สีดำ - เหลือง
2. ไขควงปากแฉก
มีไขควงปากแบนแล้วก็ต้องมีไขควงปากแฉก เป็นอีกหนึ่งไขควงพื้นฐานที่ต้องมีคู่กันประจำบ้าน นิยมเรียกอีกชื่อนึงว่าไขควงสี่แฉก เพราะหัวไขควงมีลักษณะเป็นเครื่องหมายกากบาทที่แบ่งออกเป็นสี่แฉก ไขควงปากแฉกเป็นไขควงอเนกประสงค์ที่ใช้งานง่ายกว่าไขควงปากแบน เพราะมีสี่แฉกจึงทำให้มีประสิทธิภาพในการรับแรงบิดได้สูงกว่า
ไขควงสี่แฉกหุ้มฉนวนกันไฟ VDE GIANT KINGKONG PRO รุ่น KKP20423 ขนาด PH2 x 4 นิ้ว สีแดง – เหลือง
3. ไขควงทอร์ค
ไขควงชนิดนี้ ปากของไขควงมีลักษณะคล้ายดาว 6 แฉกที่มีขอบมน ซึ่งการออกแบบในลักษณะนี้เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำให้สามารถทนต่อแรงต้านในการบิด รับแรงบิดได้สูงยิ่งขึ้น และสามารถส่งต่อแรงหมุนไปยังสกรูได้ดีขึ้นกว่าเดิม ลดโอกาสการลื่นไถลระหว่างใช้งาน รวมไปถึงยืดอายุการใช้งานของไขควง และสกรูได้ยาวนานกว่าไขควงแบบอื่น ๆ นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ไขควงตัวทีหัวท็อกซ์ GIANT KINGKONG PRO รุ่น KKP20776 ขนาด 6 มม. x 6 นิ้ว สีน้ำเงิน – เทา
4. ไขควงวัดไฟ
ไขควงชนิดนี้มีรูปแบบการใช้งานที่ไม่เหมือนกับไขควงทั่วไป แต่ที่มีชื่อว่าไขควงเป็นเพราะรูปทรงของอุปกรณ์ที่มีความคล้ายไขควง โดยไขควงวัดไฟนั้นเป็นเครื่องมือสําหรับตรวจสอบกระแสไฟฟ้าว่ามีไฟฟ้าไหลเวียนอยู่หรือไม่ เป็นการเช็คเพื่อความปลอดภัย ไขควงวัดไฟมีทั้งปลายแบนและปลายแหลม ด้ามใส ภายในมีตัวต้านทาน และมีหลอดไฟขนาดเล็ก ทำหน้าที่เป็นไฟบอกสถานะ ใช้งานได้โดยการนำปลายแหลมแหย่เข้าไปในบริเวณที่คาดว่าจะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แล้วใช้นิ้วแตะที่บริเวณด้านบนของไขควง เมื่อปลายไขควงสัมผัสกับกระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวต้านทาน เพื่อทำการจำกัดกระแสให้ลดลง ทำให้ไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน จากนั้นกระแสไฟจะไหลต่อไปยังหลอดไฟในตัวไขควง ทำให้หลอดไฟบ่งบอกสถานะสว่างขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีกระแสไฟไหลเวียนอยู่ ก่อนที่จะไหลไปยังร่างกายของผู้ใช้ แล้วไหลลงพื้น ทำให้ระหว่างการใช้งานไขควงวัดไฟต้องไม่ต้องใส่รองเท้านั่นเอง
ไขควงลองไฟ STANLEY รุ่น 66-119 ขนาด 5.5 นิ้ว สีเหลือง
ข้อควรระวังในการใช้ไขควง
• ควรเลือกขนาดปากไขควง ให้เข้ากับร่องของสกรู ข้อนี้เป็นข้อที่ต้องระวังให้ดี เพราะหลายคนชอบฝืนใช้ขนาดปากไขควงที่ไม่ตรงกับสกรู ซึ่งนอกจากจะยากต่อการใช้งานแล้ว ยังส่งผลให้หัวสกรูเสียหายตามมาอีกด้วย
• ในการใช้งานไม่ควรออกแรงบิดมากเกินไป เพราะสกรูแต่ละชนิดรับแรงได้ไม่เท่ากัน อาจทำให้เกิดความเสียหายที่เรียกกันว่าสกรูหัวเยิน
• ทำความสะอาดไขควงทั้งก่อนและหลังจากการใช้งาน โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณด้ามจับไขควง เพื่อไม่ให้ไขควงลื่นในระหว่างการใช้งาน
• ห้ามนำไขควงไปใช้งานผิดประเภท เช่น การนำไปใช้งานแทนสิ่ว นำไปใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยในการแกะสลักหรือนำไปงัดวัสดุต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ไขควงเสียหายแทบทั้งสิ้น
ท้ายที่สุดแล้วพี่ไทขอแนะนำให้ใช้งานไขควงให้ถูกประเภท เลือกขนาดปากไขขวงให้ถูกต้อง ตรวจสอบให้ดีก่อนใช้งาน ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานทั้งไขควง และสกรู ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
ขอบคุณภาพจาก: ronixtools.com
• เลือกช้อปไขควง ครบ ถูกและดี ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สินค้าแนะนำ