เลือกสาขา
กระเบื้องหลังคาบ้าน การดูแลที่ไม่ควรมองข้าม
ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาลเข้าสู่หน้าร้อนเต็มตัวแบบนี้ สภาพอากาศมักมีความแปรปรวนมากเป็นพิเศษ อยู่ดี ๆ ฝนอาจเทลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หรือวันดีคืนดีอากาศก็ร้อนจัดประหนึ่งกลางเดือนเมษา เวลาเดินทางออกจากบ้านจึงต้องพกร่มพกหมวกไว้ป้องกันตัวเองจากความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ แต่สำหรับบ้านที่เราใช้พักอาศัยนั้น กลับไม่มีอะไรเลยที่คอยปกป้องกระเบื้องมุงหลังคา ไม่ว่าจะแดดออกหรือฝนตกกระเบื้องหลังคาก็จะคอยรองรับเป็นด่านแรกอยู่เสมอ ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ กระเบื้องหลังคาก็จะเริ่มแตก พัง และสภาพโดยรวมของหลังคาก็จะเสื่อมลงไม่สามารถปกป้องตัวบ้านได้เต็มที่อย่างที่เคยเป็นมา จนเกิดเป็นปัญหาให้กับผู้อยู่อาศัย
ดังนั้น ในบทความนี้พี่ไทจะชวนทุกคนมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระเบื้องมุงหลังคา ให้หน้าด่านของบ้านเราได้รับการปกป้องจากการดูแลเป็นอย่างดี เพื่อให้หลังคามีความแข็งแรงคงทน มีความพร้อมต่อการใช้งาน ไม่ว่าในสภาวะใด และเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความสบายใจได้ว่าการดูแลอย่างถูกวิธี จะคอยช่วยปกป้องเราได้จากความไม่แน่นอนของสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย
มาเริ่มต้นสำรวจ และดูแลกระเบื้องหลังคาบ้านไปพร้อมกันเลยครับ
1. สำรวจรอบบ้าน
ก่อนที่จะเริ่มปีนหลังคาเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของกระเบื้องหลังคา พี่ไทขอแนะนำให้เริ่มต้นจากอะไรง่าย ๆ อย่างการเดินสำรวจรอบบ้านกันก่อน โดยให้เราเพ่งเล็งไปที่ต้นไม้ใหญ่บริเวณรอบ ๆ บ้าน ว่าลุกล้ำเข้าไปในอาณาเขตของหลังคาบ้านมากน้อยเพียงใด เพราะยิ่งกินพื้นที่หลังคาบ้านมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการร่วงหล่นของกิ่งไม้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นควรตัดแต่งกิ่งไม้ออกให้เป็นกิจวัตร เพื่อป้องกันการหล่นใส่หลังคาบ้าน อย่าเสี่ยงปล่อยทิ้งไว้ เพราะถ้ากระเบื้องหลังคาแตกขึ้นมาจะเสียเวลามากกว่าการตัดกิ่งไม้แน่นอนครับ
2. ปีนหลังคาบ้านตรวจเช็ค
หลังจากสำรวจรอบบ้านเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าการสำรวจหลังคาเป็นอะไรที่ใช้เวลานาน โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่จะยิ่งใช้เวลานานกว่าปกติ ดังนั้นถ้าปีนขึ้นไปแล้ว ก็ควรใช้เวลาให้คุ้มค่า สำรวจให้ละเอียดที่สุด โดยให้สังเกตดูให้ดีว่าต้องไม่มีรอยแตกร้าว เพราะรอยแตกร้าวบนแผ่นกระเบื้องอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วตามมา และถ้าทิ้งไว้นาน ๆ รอยร้าวก็อาจจะขยายเป็นวงกว้างจนตกหล่นลงมาได้
3. ลงมือซ่อมกระเบื้องหลังคาบ้าน
ถ้าพบรอยร้าวบนกระเบื้องหลังคาที่ไม่ได้เป็นรอยแผลใหญ่จนเกินไป เราสามารถซ่อมแซมได้ด้วยตนเอง โดยใช้อะคริลิคทากันซึมในการอุดรอยรั่วซึม และทาทับด้วยสีทาหลังคาเก็บรายละเอียดเพื่อความสวยงาม โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
• ทำความสะอาดบริเวณกระเบื้องหลังคาที่มีรอยร้าวให้เรียบร้อย ฝุ่นผงบริเวณหลังคาจะได้ไม่มาขัดขวางการทำงานของอะคริลิคทากันซึม
• ใช้อะคริลิคทากันซึมทาลงบนกระเบื้องหลังคาที่มีรอยร้าว โดยทาให้กระจายรอบแผ่นกระเบื้อง หลังจากนั้นให้พักทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยทารอบที่ 2 เสริมให้แข็งแรงขึ้น
• หลังจากแห้งแล้วให้ทาทับด้วยสีทาหลังคาเพื่อเก็บรายละเอียด ให้หลังคาสวยงามเหมือนใหม่
แต่ถ้ามีรอยแตกร้าวเป็นจุดใหญ่ มองเห็นได้ชัด กระจายตัวหลายจุดรอบ ๆ หลังคา แนะนำให้เปลี่ยนกระเบื้องหลังคาใหม่ แก้ปัญหาจากต้นเหตุ ไม่ต้องกังวลใจจากรอยแตกที่อาจร้าวเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต
4. หมั่นคอยสำรวจตรวจกระเบื้องหลังคาบ้าน
ขั้นตอนทั้งหมดที่พี่ไทหยิบมาเล่าให้ฟัง ขอแนะนำว่าควรทำปีละ 2 - 3 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการเปลี่ยนผ่านฤดูกาลจากหน้าหนาวไปหน้าร้อน จากหน้าร้อนไปหน้าฝน และจากหน้าฝนไปหน้าหนาว เพื่อให้หลังคาคงอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดก่อนรับมือกับสภาพอากาศในฤดูกาลต่าง ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้คงรู้สึกเหมือนพี่ไทนะครับว่า การดูแลกระเบื้องหลังคาเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไป อาจจะใช้เวลามากสักหน่อย แต่ก็สามารถทำได้ด้วยตนเองไม่เหนือบ่ากว่าแรงแต่อย่างใด ดีกว่าปล่อยปะละเลยไม่ได้ทำการดูแลใด ๆ พอรู้ตัวอีกทีน้ำก็รั่วจากหลังคาลงมาเจิ่งนองกองอยู่กับพื้นบ้านเสียแล้ว ดังนั้นอย่ารอช้าหาเวลาว่างในวันหยุดสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงปีนขึ้นไปสำรวจหลังคา ตรวจสอบให้เรียบร้อย เพื่อลดปัญหาจุกจิกกวนใจต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่จะตามมาในอนาคตกันดีกว่าครับ
• เลือกช้อปกระเบื้องหลังคา ครบ ถูกและดี ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สินค้าแนะนำ
