กำจัดเชื้อรา ฆ่าตะไคร่น้ำ จบปัญหาคราบสกปรกรอบบ้าน
มีคนเขาบอกกันไว้ว่าหน้าบ้านต้องดูน่ามอง แต่ถ้าบนผนังกำแพงบ้านของเรา เต็มไปด้วยเชื้อราและตะไคร่น้ำ ความน่ามองคงไม่มีให้เห็นแน่ ๆ เพราะมองไปทางไหนก็คงจะมีแต่คราบดำ คราบเขียว ให้เห็นเต็มไปหมด ยิ่งในหน้าฝนแบบนี้โดนความชื้นเข้าเล่นงานหลีกหนีเชื้อราและตะไคร่น้ำกันไม่พ้นแน่นอน แต่ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ บทความนี้ พี่ไทจึงจะชวนทุกคนมาคืนความสะอาดน่ามองให้กับกำแพงบ้าน แบบที่เรียกได้ว่าสวยงามเหมือนใหม่ และยังสามารถป้องกันการกลับมาของเจ้าคราบตัวร้ายได้ด้วย
แต่ก่อนอื่นขอให้ทุกคนมาทำความรู้จักคราบต่าง ๆ เหล่านี้กันก่อน จะได้รู้ว่าเรากำลังเผชิญกับอะไรอยู่ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วคราบที่ปรากฏบนกำแพงบ้าน มีดังต่อไปนี้
ราดำ เป็นเชื้อราที่พบได้บ่อยมากที่สุดบนกำแพงบ้าน ยิ่งในบริเวณที่มีความชื้นสูงยิ่งเจอได้ง่าย ดังนั้นกำแพงบ้านของเราที่ตากลมจากฝนอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งกำเนิดชั้นดีของราดำเหล่านี้ วิธีสังเกตก็ง่ายมาก ๆ จุดดำบนกำแพงเกิดขึ้นเมื่อไหร่แสดงว่าราดำได้เกิดขึ้นแล้ว และจุดดำ ๆ เหล่านี้จะลุกลามไปเรื่อย ๆ จนเป็นคราบสีดำขนาดใหญ่บนกำแพง ซึ่งราดำบางชนิดมีอันตรายต่อตัวเรา และสัตว์เลี้ยง
ราขาว หลายคนอาจจะรู้จักเพียงแค่ราดำ แต่ราขาวก็มีเช่นเดียวกัน ลักษณะของราขาวก็มีสีขาวตามชื่อของมัน มองดูแล้วคล้ายกับคราบเกลือจากเหงื่อที่ขึ้นบนเสื้อ ดังนั้นจะสังเกตเห็นยากพอสมควร แนะนำให้ฉีดน้ำใส่กำแพงถ้าคราบขาวเหล่านั้นไม่จางหายไป แสดงว่าคราบนั้นคือราขาว ไม่ใช่คราบเกลือ
ตะไคร่น้ำ คือคราบที่เรามักจะเห็นได้ชัดที่สุดบนกำแพง เพราะมีสีเขียวเข้ม สังเกตง่าย เป็นพืชตระกูลสาหร่ายเซลล์เดียวมักจะเติบโตขึ้นในพื้นที่ที่มีความชื้น พอโดนแสงแดดก็เหมือนกับไปเร่งปฏิกริยาให้เติบโตลุกลามกว่าเดิม ความอันตรายของคราบชนิดนี้ก็คือความลื่น ถ้าเกิดขึ้นบนพื้นทางเดินให้รีบกำจัดออกก่อนเกิดอุบัติเหตุตามมา
หลังจากทำความรู้จักคราบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนกำแพงแล้ว เรามาดูวิธีกำจัดคราบเชื้อรา และคราบตะไคร่น้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายหรือกลับมาเกิดขึ้นซ้ำ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดคราบเชื้อรา หรือคราบตะไคร่น้ำ
นี่คือสิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำถ้าคิดที่จะกำจัดคราบเชื้อรา คราบตะไคร่น้ำ บนกำแพงบ้านหรือบนพื้น เพราะถ้าไม่เคลียพื้นผิวให้เรียบร้อยก่อน จะไม่สามารถก้าวไปสู่ขั้นตอนถัดไปได้ โดยก่อนอื่นให้เราเอาน้ำสะอาดราดบริเวณที่มีคราบราหรือคราบตะไคร่ให้ชุ่ม แล้วใช้แปรงทองเหลืองขัดไปเรื่อย ๆ ให้คราบต่าง ๆ หลุดลอกออกไปให้ได้มากที่สุด หรือที่บ้านใครมีตัวช่วยอย่างเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็สามารถนำมาใช้ทุ่นแรงกำจัดคราบได้เช่นเดียวกัน หากเป็นคราบเชื้อรา ข้อควรระวังคือ ห้ามขัดคราบเชื้อราในขณะที่ผิวกำแพงแห้งโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เชื้อราที่เป็นฝุ่นผงแพร่กระจาย ทำอันตรายต่อร่างกาย และถ้าเป็นไปได้ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือแว่นตาเพื่อความปลอดภัย
เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ZINSANO รุ่น FA1005 แรงดัน 100 บาร์ สีฟ้า
2. ทาน้ำยาฆ่าเชื้อรา และตะไคร่น้ำ
หลังจากล้างทำความสะอาดคราบเชื้อราหรือคราบตะไคร่น้ำเสร็จแล้ว ให้ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน เพื่อให้กำแพงหรือพื้นที่เราทำความสะอาดแห้งสนิท หลังจากนั้นให้ทาน้ำยาฆ่าเชื้อรา และตะไคร่น้ำ หลังจากทาเสร็จแล้ว ให้ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วทาซ้ำอีกรอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภายในการฆ่าเชื้อรา และตะไคร่น้ำ
น้ำยากันเชื้อราและตะไคร่น้ำ BEGER รุ่น W-006 ขนาด 1 แกลอน สีใส
3. ทาสีรองพื้นปิดร่องรอยคราบเชื้อรา และตะไคร่น้ำ
แม้ว่าจะทำความสะอาดจนคราบสกปรก รวมถึงทาน้ำยาฆ่าเชื้อรา และตะไคร่น้ำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กำแพงบ้านก็จะยังไม่กลับมาดูสะอาดเหมือนใหม่ เพราะยังคงมีร่องรอยจากการทำความสะอาดค้างอยู่ แนะนำให้ขจัดร่องรอยเหล่านั้นด้วยการทาสีใหม่ แต่ก่อนจะทาสีใหม่เราจำเป็นที่จะต้องทาสีรองพื้นก่อน โดยให้เราเลือกสีรองพื้นที่มีคุณสมบัติทนความชื้นสูง จะได้ช่วยลดโอกาสในการเกิดปัญหาเดิมซ้ำอีกครั้ง
สีรองพื้นปูนเก่า TOA รุ่น E1100 ขนาด 1 แกลลอน สี 0CON ใส
4. ทาสีที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อรา และตะไคร่น้ำทับอีกรอบ
ขั้นตอนสุดท้ายทาสีจริง แนะให้เลือกสีที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อรา และตะไคร่น้ำ เป็นการเสริมการป้องกันให้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้ทาแค่น้ำยาฆ่าเชื้อรา และตะไค่น้ำเพียงอย่างเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามสีที่มีคุณสมบัติพิเศษแบบนี้ก็มักจะมาราคาที่แพงกว่าสีทั่วไป แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า ตัดปัญหากวนใจบนกำแพง
สีน้ำอะคริลิกเนียน BEGER รุ่น เบเยอร์คูลไดมอนด์ชิลด์ เกรด 15 ปี ขนาด 9 ลิตร สีเบส A
4 ขั้นตอนในการกำจัดเชื้อรา และตะไคร่น้ำเหล่านี้ ไม่ยุ่งยากและไม่วุ่นวายมากนัก แต่อาจจะต้องลงทุนลงแรงกันสักหน่อย และอาจจะมีเสียเวลาบ้างเล็กน้อยไม่สามารถทำให้จบได้ในวันเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามพี่ไทคิดว่ากำแพงสวยเหมือนใหม่ที่เราได้มา ย่อมคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไปแน่นอน แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าเชื้อรา และตะไคร่น้ำมีโอกาสกลับมาเกิดซ้ำได้ เพราะเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความชื้นจากปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมอย่างลมฟ้าอากาศได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือป้องกันไว้เป็นอย่างดีตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมา เพื่อยืดระยะเวลาให้ปัญหาเกิดช้าลง
• เลือกช้อปน้ำยากำจัดเชื้อรา / ตะไคร่น้ำ ครบ ถูกและดี ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สินค้าแนะนำ