เคล็ดลับการเลือกขนาดสายไฟ ให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน
พลังงานไฟฟ้า เรียกได้ว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เรานั้นขาดไม่ได้ เพราะเป็นพลังงานที่ช่วยนำส่งไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ พัดลม ฯลฯ ให้มีการทำงานเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่เรา แต่การที่พลังงานไฟฟ้าจะนำส่งไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้นั้น จำเป็นต้องส่งผ่านสายไฟที่ถูกประเภท มีคุณภาพ และอีกข้อนึงที่สำคัญซึ่งถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง นั่นก็คือ การเลือกขนาดของสายไฟ เรามาดูกันดีกว่าว่าขนาดของสายไฟมีผลต่อการใช้งานอย่างไร ทำไมต้องคำนึงถึงขนาดให้เหมาะกับการใช้งานร่วมด้วย
เหตุผลที่ควรเลือกขนาดสายไฟ ให้เหมาะสม
เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านสายไฟย่อมจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นอยู่ภายในสาย ซึ่งความร้อนนี้อาจเพิ่มขึ้นในอุณหภูมิสูงจนเสี่ยงทำให้ฉนวนที่หุ้มสายนั้นละลาย เสื่อมคุณภาพ ไฟฟ้าลัดวงจร สายไฟไหม้ นำไปสู่อัคคีภัยและอันตรายถึงแก่ชีวิตทั้งตัวคุณและคนที่คุณรัก ดังนั้น ยิ่งกระแสไฟฟ้ามากเท่าไหร่ก็จำเป็นต้องใช้สายไฟที่มีขนาดใหญ่ตามเพื่อรองรับกระแสไฟฟ้าและช่วยลดการเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดนั่นเอง
เลือกขนาดสายไฟอย่างไร ให้ปลอดภัยขณะใช้งาน
ในการเลือกขนาดสายไฟขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน เนื่องจากระบบไฟฟ้าภายในบ้าน อาคารของแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ไฟนั้นแตกต่างกันออกไป แต่หลัก ๆ แล้ว ในการเลือกขนาดสายไฟจะพิจารณาจาก ชนิดของสายไฟ พิกัดการทนกระแสของสายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า ตัวเลขลดพิกัดกระแสเกี่ยวกับอุณหภูมิและกระแสเกี่ยวกับจำนวนสาย
ยกตัวอย่าง : หากต้องการหาขนาดสายไฟของไมโครเวฟขนาด 2200 VA. 220 V. แบบไม่โหลดต่อเนื่อง เมื่อใช้งานร่วมกับสายไฟ THW เดินในท่อโลหะร้อยสายติดลอยอากาศ
วิธีคำนวณเบื้องต้น : นำ 2200 ÷ 220 = 10 A.
เมื่อได้ค่าแอมป์แล้ว ให้ค่าที่ผ่านการคำนวณได้มาเปรียบเทียบในตาราง ด้านล่างนี้
ซึ่งตัวอย่างดังกล่าวควรใช้การเดินสายแบบ C. ที่ต้องใช้ขนาดสายไฟ THW ที่ทนกระแสไฟได้ไม่ต่ำกว่า 10 A คือ สาย 1 ตร.มม แต่เนื่องจากข้อกำหนดของการไฟฟ้า ที่ให้ใช้สายขนาดเล็กที่สุดไม่ต่ำกว่า 2.5 ตร.มม ดังนั้น ควรเลือกสาย THW ขนาด 2.5 ตร.มม ที่ทนกระแสไฟฟ้า 18 A. และยิ่งกระแสไฟมากเท่าไหร่ก็ควรเลือกสายไฟที่มีขนาด ตร.มม มากขึ้นแต่ยังคงให้เหมาะสมกับกระแสไฟที่คำนวณได้
แต่ถึงอย่างนั้น ในการเลือกขนาดสายไฟนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างต้องใช้ความชำนาญและความละเอียดสูง เพราะอย่างที่ทราบไปข้างต้นว่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มการใช้งานให้ยาวนาน ควรรับการบริการจากผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการติดตั้งสายไฟจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ข้อควรคำนึงอื่น ๆ ในการเลือกสายไฟ
1. ตัวนำสายไฟ
เพราะตัวนำไฟฟ้าทำหน้าที่ในการส่งผ่านกระแสไฟฟ้าหรือสัญญาณไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่จะทำจากโลหะที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้าต่ำและมีค่าความนำไฟฟ้าสูง โดยส่วนใหญ่ผู้คนมักเลือกใช้ทองแดง เนื่องจากสามารถนำไฟฟ้าได้สูง นำความร้อนได้ดี มีความแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย
2. ฉนวนไฟฟ้า
การเลือกฉนวนไฟฟ้าก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรพิจารณาในการเลือกซื้อสายไฟ โดยจะนิยมใช้เป็นฉนวนที่ทำจากพลาสติกโพลีเมอร์ พีวีซี และครอสลิงกด์พอลิเอทิลีน (XLPE) เพราะมีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูง มีความแข็งแรง และต้านทานไฟฟ้าได้ดี เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกไฟดูด ไฟฟ้าลัดวงจร ที่เป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ได้
3. ประเภทของสายไฟ
สายไฟมีทั้งแบบสายไฟแรงดันต่ำและแรงดันสูง อีกทั้งยังแบ่งออกเป็นหลายชนิด เพื่อเลือกสายไฟนำไปใช้ติดตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งระบบไฟอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดกว่าการเลือกและติดตั้งเอง
4. สายไฟฟ้าควรได้รับการรับรองมาตรฐาน
ควรเลือกสายไฟที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. แต่ในบางแบรนด์ก็อาจมีการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล เช่น BASEC , UL , KEMA และ SGS ซึ่งมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ดังนั้น หากคุณเลือกใช้สายไฟที่ได้รับใบรับรองจากมาตรฐานเหล่านี้ คุณก็สามารถวางใจทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยได้เลย แต่ก็ยังคงใช้งานอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบสายไฟรวมถึงระบบไฟในบ้านสม่ำเสมอ เพื่อสังเกตว่าเกิดการชำรุด เสื่อมสภาพ เก่าเกินไปหรือไม่ ป้องกันการเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดในภายหลัง
• ช้อปปิ้งสินค้า "สายไฟ" ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ คลิก
สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่าย สายไฟ หลากรูปแบบ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถเลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308
สินค้าแนะนำ