ค่าความสว่างหลอดไฟ มีความสำคัญอย่างไรกันนะ ? 

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการเลือกหลอดไฟที่มีความสว่างมากต้องเลือกหลอดไฟกำลังวัตต์สูงเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วกำลังวัตต์ของหลอดไฟเป็นเพียงค่าที่บอกว่าหลอดไฟใช้พลังงานมากแค่ไหน อธิบายง่าย ๆ คือ ยิ่งวัตต์ของหลอดไฟสูงถึงแม้จะให้แสงที่สว่างมากตามมา แต่ขณะเดียวกันก็จะทำให้กินไฟมากขึ้น ดังนั้น จึงควรเช็กที่ความสว่างของ ลูเมน (Lumen) ควบคู่กันด้วย งั้นเรามาดูไปพร้อมกันดีกว่าว่าค่าความสว่างหลอดไฟที่ว่ามานี้คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร อีกทั้งเรายังนำเคล็ดลับการคำนวณเบื้องต้นง่าย ๆ เพื่อช่วยให้คุณประหยัดไฟได้ยิ่งขึ้นมาฝากกันอีกด้วย 

ค่าความสว่างหลอดไฟ สำคัญอย่างไร มาดูกัน 

ค่าความสว่างหลอดไฟ หรือ ลูเมน (Lumen : LM) เป็นหน่วยวัดความสว่างของแสงที่ออกมาจากหลอดไฟ โดยจะนับรวมปริมาณแสงทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจากแหล่งกำเนิดแสง ซึ่งจะมีรัศมีเท่ากับ 1 ฟุต หรือ 1 ลูเมนต่อตารางฟุต หากจะให้เข้าใจกันง่ายขึ้นก็คือ ใน 1 ตารางฟุตของพื้นที่นั้น จะมีเส้นแสงมาตก 1 เส้น หรือ 1 ลูเมน นั่นเอง และยิ่งตัวเลขลูเมนที่มีค่าความสว่างมาก หลอดไฟของคุณก็จะให้ความสว่างที่มากขึ้นตามไปด้วย 

ยกตัวอย่าง หากคุณซื้อหลอดไฟ 600 ลูเมน ก็เท่ากับว่า เส้นแสงที่จะมาตกในพื้นที่นำไปติดตั้งของคุณนั้นจะได้ 600 ตารางฟุต 

ดังนั้น ค่าความสว่างนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่คุณควรสังเกตร่วมกับกำลังวัตต์ รวมถึงการคำนึงขนาดพื้นที่ห้องก่อนเลือกซื้อ เพราะจะช่วยให้คุณเลือกนำไปใช้ในพื้นที่ที่เหมาะสม ทำให้ห้องคุณไม่สว่างเกินไปจนแสบตา หรือไม่ให้แสงสว่างน้อยไปจนส่งผลทำให้คุณดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ไม่สะดวกนั่นเอง 

ความสัมพันธ์ระหว่างค่าความสว่างและค่าวัตต์ 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าการเลือกหลอดไฟควรเช็กดูทั้งค่าความสว่างและกำลังวัตต์ควบคู่กัน เพื่อให้ได้ค่าของแสงสว่างที่ถูกต้อง เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ทั้ง 2 ค่า ยังมีความสัมพันธ์ในเรื่องของการประหยัดไฟซ่อนอยู่ ซึ่งการที่จะเลือกหลอดไฟช่วยประหยัดไฟควรเลือก ค่าความสว่างสูงแต่ค่าวัตต์ต่ำ  

ยกตัวอย่าง

• หลอดไฟ LED ยี่ห้อ A  ค่าความสว่าง 2,520 ลูเมน กำลังวัตต์ 20 วัตต์  ให้นำมาหารกันก็จะได้ 2,520 ÷ 20 = 126 ลูเมน/วัตต์
• หลอดไฟ LED ยี่ห้อ B ค่าความสว่าง 2,520 ลูเมน กำลังวัตต์ 30 วัตต์  ให้นำมาหารกันก็จะได้ 3,300 ÷ 20 = 84 ลูเมน/วัตต์ 

เมื่อดูด้วยตาเปล่าหลายคนคงคิดว่าหลอดไฟยี่ห้อ B คงจะให้ความสว่างมากกว่าแน่นอนหากไม่มีการคำนวณ แต่หากคุณผ่านมาเห็นบทความนี้สักนิด เราขอให้คุณหยุดคำนวณโดยนำค่าความสว่างและกำลังวัตต์มาหารกัน ซึ่งจากผลลัพธ์ที่ได้นั้น จะเห็นว่า ยี่ห้อ A ที่คุณเห็นว่าค่าวัตต์น้อยกลับให้แสงสว่างถึง 126 ลูเมน ต่อ 1 วัตต์ ในขณะที่ยี่ห้อ B ที่กำลังมากกว่า แต่กลับให้แสงสว่างเพียง 84 ลูเมน ต่อ 1 วัตต์ เท่านั้น  

สรุปให้เข้าใจง่ายก็คือ ยี่ห้อ A มีการใช้พลังงานน้อยกว่ายี่ห้อ B และยังให้มีความสว่างที่มากกว่า ด้วยเหตุนี้จึงช่วยให้คุณประหยัดไฟโดยที่ยังได้ความสว่างเพียงพอต่อการใช้งานนั่นเอง 

ในกรณีถ้าหากคุณเป็นคนไม่ชอบความสว่างมากก็สามารถเลือกค่าความสว่างต่ำได้ แต่ยังคงจำเป็นต้องเลือกค่าวัตต์ต่ำอยู่เช่นเดิม เพราะหากเลือกทั้งค่าความสว่างและค่าวัตต์สูงทั้งคู่ แน่นอนว่าอาจทำให้ค่าใช้จ่ายของคุณสูงขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่มักเปิดไฟใช้งานบ่อยครั้งเป็นเวลานานหรือเปิดค้างไว้ตลอดทั้งคืน 

ช้อปปิ้งสินค้า หลอดไฟ ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ 

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่าย หลอดไฟ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถเลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308