ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี
logo_mobile
search
เลือกสาขา
หน้าแรก
บทความ
“สายไฟ” อุปกรณ์นำส่งพลังงานไฟฟ้า มีกี่ประเภทกันนะ?

“สายไฟ” อุปกรณ์นำส่งพลังงานไฟฟ้า มีกี่ประเภทกันนะ?


          สายไฟ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่ในการนำส่งกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ใช้งานได้ตามปกติ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เพราะหากขาดพลังงานไฟฟ้าเหล่านี้ไป คงจะคิดภาพออกกันใช่ไหมครับว่าจะเพิ่มความลำบากให้แก่เรามากขนาดไหน ทั้งไม่มีแสงสว่าง อยู่ในสภาพอากาศร้อน และยังไม่สามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารได้อีก
          แต่ถึงอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเราจะนำสายไฟแบบไหนมาใช้งานก็ได้ทั้งหมด เพราะค่ากระแสไฟฟ้ามีทั้งแบบระดับต่ำและระดับสูง ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่ต้องคำนึงถึงการเลือกประเภทสายไฟให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัยจากไฟฟ้าลัดวงจร สายไฟไหม้ เรามาดูกันดีกว่าว่าสายไฟมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบใด 

ทำความรู้จักกับส่วนประกอบสายไฟ

1. ตัวนำไฟฟ้า  (Conductor)

          ทำหน้าที่ส่งกระแสไฟฟ้าหรือสัญญาณไฟฟ้าไหลผ่านได้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำจาก เงิน ทองแดง และอะลูมิเนียม ที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้าต่ำและมีค่าความนำไฟฟ้าสูง เรามาดูกันดีกว่าแต่ละวัสดุนั้นมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
          เงิน : เป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีที่สุด แต่อาจมีการกระจายของกระแสไฟที่ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะกับการนำไฟฟ้าในกระแสความถี่สูง และเนื่องจากเงินค่อนข้างมีราคาที่แพงจึงไม่นิยมนำมาทำเป็นตัวนำไฟฟ้าในสายไฟบ้านทั่วไป แต่จะนำไปใช้กับสายไฟสำหรับอุตสาหกรรมที่มีกระแสไฟฟ้าสูงมากกว่า
          ทองแดง : เป็นโลหะที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการนำไฟฟ้า เพราะมีค่าการนำไฟฟ้าสูงเป็นอันดับสองรองจากเงิน อีกทั้งยังนำความร้อนได้ดี มีความแข็งแรงและดัดโค้งงอโดยไม่เปราะหักง่าย ส่วนใหญ่นิยมใช้กับงานไฟฟ้าที่ต้องติดตั้งภายในอาคาร บ้านเรือนและใต้ดิน
          อะลูมิเนียม :  มีค่าการนำไฟฟ้าต่ำกว่าทองแดง มีราคาถูก แต่จะเปราะหักง่ายกว่า เหมาะสำหรับทำเป็นตัวนำของสายไฟฟ้าบนเสาไฟฟ้าเหนือพื้นดินที่ต้องเดินสายเป็นระยะทางไกล

2. ฉนวน (Insulation)

          ฉนวน ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน โดยวัสดุที่ใช้ทำฉนวนส่วนใหญ่จะผลิตจากพลาสติกโพลีเมอร์หรือยางที่มีคุณสมบัติทนความร้อน เช่น โพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride : PVC) ป้องกันของเหลวไหลผ่านไปยังส่วนที่ก่อให้เกิดอันตราย ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาไฟรั่วและไฟฟ้าลัดวงจร

3. เปลือกนอก (Sheath)

          เปลือกนอก ทำจากพลาสติกโพลิเมอร์ซึ่งจะอยู่ชั้นนอกสุดของสายไฟฟ้าหรือสายไฟที่เราจับกันนั่นเอง ทำหน้าที่ป้องกันความเสียหายให้กับสายไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น การขูดขีด การถูกกดทับ สภาพอากาศ และการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ



ประเภทของสายไฟ รู้ไว้ไม่เสียหาย

          เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายขึ้น เราจะขอแบ่งประเภทสายไฟออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1. สายไฟแรงดันต่ำ

          เป็นสายไฟที่ส่วนใหญ่ทำจากทองแดงหรืออะลูมิเนียม และเป็นสายไฟที่จะนำไปใช้กับแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 750 โวลต์ ลักษณะของสายไฟนั้นหากขนาดเล็กจะเป็นสายตัวนำเดี่ยวและสายขนาดใหญ่จะเป็นตัวนำตีเกลียว สายไฟแรงดันต่ำประเภทนี้ มีอยู่ 5 ชนิดด้วยกันที่ผู้คนนิยมใช้ ได้แก่

สายไฟ VAF

          เป็นสายไฟชนิดที่มีความนิยมอย่างมากในประเทศไทยที่ใช้กับบ้านเรือนทั่วไป โดยที่แต่ละสายก็จะมีฉนวนหุ้ม และมีเปลือกหุ้มฉนวนอีกชั้นหนึ่งด้านนอก สามารถทนแรงดันได้ 300 โวลต์ มีให้เลือกใช้ทั้งแบบสายไฟเดี่ยว สายไฟคู่ และแบบสายดินอยู่ด้วย 2 แกน และ 3 แกน แต่จะใช้ได้กับระบบ 1 เฟสเท่านั้น ห้ามนำไปใช้กับระบบไฟฟ้า 3 เฟส เนื่องจากมี 380 โวลต์ ซึ่งเกินกว่าสายไฟชนิดนี้จะรับแรงดันได้ มีลักษณะการใช้งานแบบเดินสายไฟเกาะผนัง เดินในช่องเดินสายไฟในสถานที่แห้ง และห้ามเดินฝังดินโดยตรง

สายไฟ THW

          เป็นสายไฟที่สามารถทนแรงดันได้ 750 โวลต์ มีแกนสายเป็นตัวนำทองแดงหลายร้อยเส้นมาทำเป็นสายใหญ่หนึ่งแกน ได้รับความนิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากใช้วงจรไฟฟ้า 3 เฟส และควรใช้งานในรูปแบบเดินลอยด้วยตัวยึดทำจากวัสดุฉนวน เดินในช่องเดินสายไฟ หรือเดินในท่อฝังดิน เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าสู่ท่อ และไม่ควรฝังดินโดยตรง

สายไฟ VCT

          สายไฟฟ้าชนิดนี้ เป็นสายที่ประกอบด้วยสายทองแดงฝอยเส้นเล็ก ๆ จึงทำให้มีความอ่อนตัวและทนต่อการสั่นสะเทือน สามารถทนแรงดันได้ 750 โวลต์ มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ 1 แกน 2 แกน 3 แกน และ 4 แกน เหมาะสำหรับใช้เป็นสายไฟเดินเข้าเครื่องจักรที่มีการสั่นสะเทือนขณะใช้งาน ในการติดตั้งสายไฟนั้นเป็นการติดตั้งแบบทั่วไป และยังสามารถเดินร้อยท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรงได้

สายไฟ NYY

          เป็นสายไฟฟ้าชนิดกลมที่นิยมใช้อย่างกว้างขวาง สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ 750 โวลต์ เพราะเป็นสายไฟที่มีเปลือกหุ้มอีกชั้น จึงช่วยป้องกันความเสียหายทางกายภาพได้ดี โดยควรติดตั้งแบบเดินร้อยท่อฝังดินหรือเดินฝังโดยตรง

สายไฟ VKF

          มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ แบบแรงดันต่ำที่สามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ 300 โวลต์ และแบบแรงดันสูงที่สามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ 750 โวลต์  เป็นสายไฟที่มีฉนวนสองชั้น มีความปลอดภัยสูง กันน้ำได้ ทำให้นำไปใช้งานได้ทั้งพื้นที่แห้ง พื้นที่เปียกและชื้น (แต่ต้องไม่แช่น้ำ โดนน้ำและสัมผัสกับความชื้นเป็นประจำ)


2. สายไฟแรงดันสูง

          เป็นสายไฟฟ้าชนิดตีเกลียวที่มีขนาดใหญ่ โดยจะมีสายแบบเปลือยและหุ้มฉนวน สามารถรับแรงดันได้ตั้งแต่ 1-36 กิโลโวลต์ (Kilovol : KV) สายไฟแรงดันสูงประเภทนี้ มีอยู่ 4 ชนิดด้วยกันที่ผู้คนนิยมใช้ ได้แก่

สายไฟฟ้าอะลูมิเนียมตีเกลียวชนิดเปลือย (AAC)

          เป็นสายไฟที่ใช้ตัวนำเป็นอะลูมิเนียมพันตีเกลียวเป็นชั้น ๆ สายไฟชนิดนี้สามารถรับแรงดันได้ต่ำไม่เกิน 132 KV จึงไม่สามารถขึงสายไฟกับเสาที่มีระยะห่างไม่เกิน 50 เมตร ยกเว้นสายไฟที่มีขนาดความหนา 95 มิลลิเมตร ขึ้นไป ที่อาจขึงได้ถึง 100 เมตร

สายไฟฟ้าอะลูมิเนียมชนิดแกนเหล็ก (ACSR)

          คือ สายไฟที่ใช้อะลูมิเนียมตีเกลียวเป็นตัวนำ และมีสายเหล็กอยู่ตรงกลาง สามารถรับแรงดันได้สูงกว่า 132 KV ที่ส่งผลให้รับแรงดึงและขยายระยะห่างระหว่างเสาในการขึงได้เพิ่มขึ้น แต่สายไฟชนิดนี้ก็อาจมีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่ไม่อาจทนต่อการกัดกร่อนของไอเกลือ ดังนั้น จึงไม่ควรนำไปใช้งานบริเวณชายทะเล

สาย Space Aerial Cable (SAC)

          เป็นสายไฟที่สามารถรับแรงดันได้ไม่เกิน 35 KV. มีอะลูมิเนียมตีเกลียวเป็นตัวนำและหุ้มด้วยฉนวน XLPE และมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความทนทาน แต่ถึงแม้ว่าจะหุ้มเปลือกแล้ว ก็ไม่ควรสัมผัสสายไฟโดยตรงเช่นกัน เพราะอาจก่อให้เกิดอันตราย

สาย Preassembiy Aerial Cable (PAC)

          เป็นสายไฟที่มีตัวนำเป็นอะลูมิเนียม มีความทนทานอย่างมาก และสามารถเดินสายไฟผ่านอาคารที่มีคนอาศัยอยู่ หรือวางพาดไปกับมุมตึกได้

• ช้อปปิ้งสินค้า “สายไฟ” ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ คลิก

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่าย สายไฟ หลากรูปแบบ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถเลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.comหรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308 
สินค้าแนะนำ