ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี
logo_mobile
search
เลือกสาขา
มอเตอร์
รายการที่ 1 - 11 จาก 11 รายการ
มอเตอร์ HITACHI รุ่น 1/4 HP
-14%
HITACHI
มอเตอร์ HITACHI รุ่น 1/4 HP
รหัสสินค้า: 60161146
฿
฿2,080
1,780
/EACH
compare

มอเตอร์

ในการที่เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จะใช้งานได้นั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเป่าลม พัดลม ปั๊มน้ำ ปั๊มสูบ เป็นต้น แน่นอนว่าคงไม่ได้ใช้กระแสไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะมีการขับเคลื่อนของ มอเตอร์ ที่อยู่ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นร่วมอยู่ด้วย โดยมอเตอร์มีขดลวดที่พันรอบแกนโลหะซึ่งอยู่ระหว่างขั้นแม่เหล็ก เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวดก็จะทำให้ขดลวดหมุนไปรอบแกน สร้างแรงบิดที่จ่ายให้กับเพลามอเตอร์แปลงพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้านั่นเอง   
ได้รู้จักกับการทำงานของมอเตอร์ไปคร่าว ๆ แล้ว ทีนี้เรามารู้จักกับประเภทของมอเตอร์กันดีกว่าว่า มีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ? พร้อมทั้งเคล็ดลับในการเลือกซื้อมอเตอร์ไฟฟ้าให้เหมาะสม เพื่อความคุ้มค่าในการใช้งาน 

ประเภทของมอเตอร์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง 

1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง 
เป็นมอเตอร์ที่ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสตรง ขับเคลื่อนด้วยแหล่งจ่ายไฟกระแสตรง (DC) ผ่านเข้าไปในขดลวดเพื่อทำให้เกิดการดูดและผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากขดลวด จึงทำให้มอเตอร์หมุนและขับเคลื่อนพลังงานได้ นอกจากนี้มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงยังแบ่งออกตามการต่อระหว่างของขดลวดสนามและขดลวดอาร์เมเจอร์ภายใน เป็น 3 ชนิดด้วยกัน ดังนี้ 
  • มอเตอร์แบบอนุขนาน (Shunt DC Motor) : เป็นการต่อขดลวดสนามและขดลวดอาร์เมเจอร์แบบขนาน ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านขดลวดทั้ง 2 จะไม่เท่ากัน แต่มีข้อดีคือ มอเตอร์จะสร้างแรงบิดปานกลางและความเร็วรอบคงที่ ส่วนใหญ่มักนิยมใช้กับมอเตอร์ในเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เครื่องเจาะ เครื่องกลึง 
  • มอเตอร์แบบอนุกรม (Serie DC Motor) : เป็นการต่อขดลวดสนามและขดลวดอาร์เมเจอร์แบบอนุกรม ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านขดลวดทั้ง 2 จะมีค่าเท่ากัน โดยปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลจะขึ้นอยู่กับภาระโหลด การต่อขดลวดแบบนี้จะส่งผลให้มีแรงบิดสูง นิยมนำไปใช้กับมอเตอร์ในเครื่องยนต์ มอเตอร์ขับเคลื่อนรถไฟฟ้า เป็นต้น
  • มอเตอร์แบบผสม (Compound Motor) : เป็นมอเตอร์ที่มีขดลวดสนาม 2 ชุดด้วยกัน ชุดที่ 1 จะต่อแบบอนุกรมกับขดลวดอาร์เมเจอร์ก่อนแล้วค่อยมาต่อขนานกับขดลวดสนามชุดที่ 2 โดยประเภทนี้มีข้อดีตรงที่จะ มีแรงบิดสูงที่มากกว่า Shunt DC Motor ขณะเดียวกันก็จะมีความคงที่กว่า Serie DC Motor มักนิยมนำไปใช้กับมอเตอร์ในงานตัดโลหะ มอเตอร์เครื่องกดอัด เป็นต้น 
2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 
เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยแหล่งจ่ายไฟกระแสสลับ (AC) เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าก็จะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นไปทำให้เกิดการเหนี่ยวนำของกระแสไฟฟ้าขึ้นในขดลวดของโรเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ให้พลังงานกลนั่นเอง โดยมอเตอร์กระแสสลับถูกแบ่งออกเป็น 2 เฟส ด้วยกัน ดังนี้ 
  • มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส : คือ ระบบไฟที่ใช้ภายในบ้านเรือนจะมีการจ่ายไฟที่เหมาะสมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน มักจะให้แรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 220-230 Volt มีความถี่ที่ 50 Hz 
  • มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส : คือ ระบบไฟที่ใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมเพราะเป็นสถานที่ที่ต้องใช้กำลังไฟฟ้าสูงเนื่องจากมีเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือไฟจำนวนมาก อีกทั้งยังต้องเปิดใช้งานเป็นเวลานาน ซึ่งจะให้แรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไลน์กับสายไลน์ในขนาด 380-400 โวลท์ รวมถึงระหว่างสายไลน์กับสายนิวทรอลในขนาด 220-230 โวลท์ ที่มีความถี่ 50Hz 

ข้อควรพิจารณาในการเลือกมอเตอร์ 

  • แรงดันไฟฟ้า ควรเลือกแรงดันให้เหมาะสมกับงานที่คุณจะต้องนำไปใช้ ยกตัวอย่าง หากคุณเลือกมอเตอร์ 220 โวลต์ แต่นำไปใช้กับไฟฟ้าในโรงงานที่มีแรงดัน 380 โวลต์ ก็อาจเสี่ยงที่จะทำให้มอเตอร์ ไหม้ และก่อให้เกิดอันตรายได้นั่นเอง 
  • กระแสไฟฟ้า เพราะปกติแล้วกระแสไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ปัจจุบันนั้นจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ แบบที่ใช้กับบ้านเรือนทั่วไป และแบบที่ใช้ในโรงงาน ในการเลือกซื้อมอเตอร์ใช้กับสถานที่ต่าง ๆ ต้องเลือกใช้ชนิดกระแสไฟฟ้าที่เหมาะสมร่วมด้วย เพราะหากมอเตอร์ที่ใช้กับกระแสไฟฟ้าน้อยไปใช้งานร่วมกับกระแสไฟฟ้ามาก อาจทำให้เกิดอันตรายและเกิดความเสียหายได้
  • ความเร็วรอบของมอเตอร์ ในปัจจุบัน มอเตอร์ที่ใช้กันโดยทั่วไปจะมีอยู่  2 ความถี่คือ 50 Hz และ 60 Hz ซึ่งประเทศไทยมักนิยมใช้ที่ 50 Hz. กันมากกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ควรพิจารณาตามการใช้งาน เพราะหากเรานำมอเตอร์ไฟฟ้าไปใช้โดยที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของโหลด ก็อาจทำให้มอเตอร์ไฟฟ้านั้นทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพได้นั่นเอง 

ช้อปปิ้งสินค้า มอเตอร์ ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ 

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่าย มอเตอร์ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถเลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308  

อ่านเพิ่มเติม