ทีวี สมาร์ททีวี ทีวี LED, OLED, QLED ทีวีราคาพิเศษทุกรุ่น

ในยุคที่การเสพคอนเทนต์ต่าง ๆ ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก แค่หยิบมือถือ หรือแท็บแท็บเล็ตขึ้นมา ก็รับชมข่าวสาร และดูหนังฟังเพลงโปรดได้อย่างสะดวกสบาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทีวีคือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถสร้างบรรยากาศแห่งความสุขชั้นดีได้อย่างไม่มีอะไรมาทดแทน เพราะไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่คนเดียวฉบับคนโสด การมีทีวีติดห้องไว้จะช่วยให้คุณคลายเหงา และได้โฟกัสกับการรับชมซีรีส์เรื่องโปรดมากยิ่งขึ้น หรือบ้านที่มีสมาชิกหลายคน ทีวีจะเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ดึงดูดทุกคนให้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้อบอุ่นกว่าที่เคย

แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่สื่อ หรือคอนเทนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ในเมื่อโลกเราวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ทีวีจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำที่ไทวัสดุเราเลือกสรรมาตอบโจทย์ทุกคน ก็ต้องพัฒนาเทคโนโลยีทีวีให้ก้าวล้ำเพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ACONATIC, HAIER, HISENSE, LG, SAMSUNG, SKYWORTH, TCL หรือ TOSHIBA เราจึงเห็นทีวีเดี๋ยวนี้หน้าตาเรียบสวยทันสมัย มีลูกเล่นน่าสนใจ ลบภาพจำทีวีหลังเต่า น้ำหนักเยอะ หรือทีวีที่ต้องเชื่อมต่อสายไฟยั้วเยี้ยไปได้เลย ซึ่งในวันนี้เราขอพาทุกคนมารู้จักทีวีประเภทต่าง ๆ ที่วางขายกันตามท้องตลาดปัจจุบัน โดยแบ่งตามประเภทของหน้าจอ เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณเลือกซื้อทีวีได้อย่างเหมาะสม

LED TV (Light Emitting Diode) หลายคนคงคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นทีวีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำงานโดยใช้หลอดไฟ LED ไซซ์จิ๋ว 3 สี (แดง น้ำเงิน เขียว) ในการให้ความสว่าง ซึ่ง LED TV พัฒนามาจาก LCD TV มีคุณสมบัติกินไฟน้อยกว่า ให้แสงสว่างดีกว่า แถมยังรูปร่างบางกว่า และมีรูปแบบหน้าจอให้เลือกหลากหลายตามประสิทธิสภาพ เช่น Edge LED, Full LED, RGB LED, UHD หรือ 4K
OLED TV (Organic Light Emitting Diode) เป็นทีวียุคใหม่ที่ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งหลอดไฟเหมือน LED TV แต่ใช้พิกเซลที่ให้แสงในตัวเองในการให้ความสว่าง จอภาพทีวีประเภทนี้จะบางและยืดหยุ่นคล้ายแผ่นฟิล์ม สามารถดีไซน์หน้าจอให้มีความโค้งได้ แถมยังกินไฟน้อย ให้สีสันสมจริง และให้ภาพคมชัดมากที่สุด
QLED (Quantum Dot Light Emitting Diode) เป็น LED TV ประเภทหนึ่งที่ใช้จุดควอนตัมโมเลกุลขนาดจิ๋วเพื่อสร้างการแสดงผล เป็นการอัปเกรดเทคโนโลยีมาจากจอประเภทต่าง ๆ ทำให้สีสันสดใสและสมจริงมากยิ่งขึ้น แต่ความคมชัดจะน้อยกว่าแบบ OLED เล็กน้อย เพราะไม่ได้ทำงานด้วยแสงในระดับพิกเซล

รู้แล้วว่าหน้าจอมีแบบไหนบ้าง ความละเอียดจอภาพ (Resolution) ก็เป็นดีเทลที่ควรรู้ไว้ใช่ว่า เพื่อที่เราจะเลือกเลือกทีวีให้เหมาะกับกับเงินในกระเป๋า เพราะบางครั้งได้ยินว่าต้องดูแบบชัดแจ๋ว หรือต้องดูแบบภาพสวยบ่อย ๆ เข้า ใจมันก็อยากจะซื้อทีวีที่ราคาสูง และภาพต้องละเอียดเนี้ยบสุด ๆ แต่บางทีความละเอียดภาพที่ลดหลั่นลงมาก็อาจเพียงพอต่อความต้องการแล้วก็ได้ ซึ่งความละเอียดระดับต่าง ๆ ก็ให้คุณภาพที่แตกต่างกัน ดังนี้

HD (1366 x 768 พิกเซล) เป็นความละเอียดในระดับมาตรฐาน
Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) เป็นความละเอียดที่ได้รับความนิยม ละครและรายการส่วนใหญ่ใช้ความละเอียดเท่านี้
UHD (3840 x 2160 พิกเซล) หรือ 4K สามารถชมภาพได้คมชัด สมจริง แต่ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์ในบ้านเราจะเป็น 4K แปลว่าถ้าคุณไม่ได้ซื้อมาดูหนัง ซีรีส์ หรือรับชม MV ที่มีภาพคุณภาพ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเลือกทีวีความละเอียดเท่านี้
8K (7680 x 4320 พิกเซล) สำหรับบ้านพักอาศัยอาจไม่จำเป็นต้องเลือกทีวีความละเอียดเท่านี้ เพราะคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ถ่ายทำด้วยความละเอียดเท่านี้มีอยู่น้อยมาก

แล้วทีวีแบบไหนที่ใช่ ? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะแต่ละเจ้าก็ใช้ชื่อทางการค้าแตกต่างกันไป และเมื่อรู้แล้วว่า หน้าจอทีวีในท้องตลาดตอนนี้มีประเภทไหนบ้าง เช็กลิสต์ที่ควรรู้ต่อมาก็คือประเภทของทีวีนั่นเอง ซึ่งในท้องตลาดตอนนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ Smart TV และ ทีวี 3 มิติ

Smart TV บางคนเรียก Android TV, Internet TV หรือทีวีอัจฉริยะ มีหลายค่ายหลายแบรนด์ให้คุณเลือกซื้อ พูดง่าย ๆ คือเหมือนเรายกสมาร์ทโฟนมาไว้บนหน้าจอทีวี มีแอปพลิเคชันและลูกเล่นมากมาายให้เราใช้งาน จะดู Netflix, YouTube, หรือดูทีวีปกติก็สามารถทำได้ เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเสียก่อน
ทีวี 3 มิติ (3 Dimension) เป็นทีวีที่เห็นภาพแบบมีมิติอย่างชัดเจน มีความสมจริง เติมเต็มอรรถรสในการรับชมมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องพึ่งแว่น 3 มิติในการรับชม

ส่วนที่เราเคยได้ยินว่า ทีวีดิจิทัล (Digital TV) หรือ ทีวีแอนะล็อก (Analogue) พวกนี้คือระบบการรองรับสัญญาณ ไม่ใช่ประเภทของทีวี ซึ่งเดี๋ยวนี้ระบบเครือข่ายสัญญาณทีวีของบ้านเราได้เปลี่ยนไปใช้ดิจิทัลแล้ว แต่ทำไมเรายังเห็นทีวีแอนะล็อกวางขายอยู่ล่ะ คำตอบก็คือต่อให้ซื้อมาแล้ว ก็ต้องมีกล่องทีวีดิจิทัล หรือ Set Top Box เป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อที่จะได้ใช้งานได้ เพราะทีวีแอนะล็อกปัจจุบันไม่สามารถรับสัญญาณได้ด้วยตัวเองแล้ว หลายบ้านจึงเลือกใช้ทีวีธรรมดา ๆ แล้วหากล่องทีวีดิจิทัลมาต่อเพิ่มเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานรับชมทีวีทั่วไป

สุดท้ายแล้วเมื่อได้ทีวีที่ถูกใจและตอบโจทย์ความต้องการ ก็อย่าลืมคำนึงถึงการจัดวางทีวีให้มีระยะห่างที่เหมาะสมกับขนาดของทีวี ซึ่งถ้ามีทีวีขนาดหน้าจอเล็กกว่า 32 นิ้ว ควรตั้งให้ห่างจากจุดที่เรานั่งประมาณ 1.5 เมตร ถ้าเป็นทีวีขนาด 32-40 นิ้ว ควรห่าง 1.5-2 เมตร ทีวีขนาด 42-48 นิ้ว ควรห่าง 2-2.5 เมตร ทีวีขนาด 50-55 นิ้ว ควรห่าง 2.5 เมตร และทีวีขนาดใหญ่กว่า 55 นิ้ว ควรตั้งให้ห่าง 2.5-3 เมตรขึ้นไป เพียงเท่านี้ คุณและคนในครอบครัวก็จะได้รับชมความบันเทิงต่าง ๆ ในระยะที่พอดี มองเห็นภาพได้ชัดเจน และสัมผัสความสนุกสนานอย่างเต็มอรรถรส

ช้อปปิ้งสินค้า ‘ทีวี’ ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับ ไทวัสดุ

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่ายทีวีจากแบรนด์ชั้นนำ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว เลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308

อ่านเพิ่มเติม