• ใบเลื่อยวงเดือน : มีรูปร่างเป็นวงกลม มีฟันเรียงรายรอบใบเลื่อย เหมาะสำหรับการตัดไม้ แผ่นไม้อัด และวัสดุอื่น ๆ ที่มีความหนาปานกลาง ข้อดีคือตัดได้เร็ว ทำงานได้รวดเร็ว เหมาะกับงานตัดที่ต้องการความเร็ว ข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดเศษไม้และผิวตัดอาจไม่เรียบเนียนเท่าที่ควร การเลือกใบเลื่อยวงเดือนควรพิจารณาจากจำนวนฟันและความหนาของแผ่นใบเลื่อย

   • ใบเลื่อยจิ๊กซอว์ : มีลักษณะเป็นแผ่นบางและยาว มีฟันละเอียด เหมาะสำหรับตัดไม้ แผ่นไม้อัด พลาสติก และวัสดุบางชนิด ข้อดีคือ สามารถตัดตามแนวโค้งและรูปทรงต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ข้อเสียคือ ตัดช้ากว่าใบเลื่อยวงเดือน และอาจทำให้เกิดความร้อนระหว่างการตัดได้

   • ใบเลื่อยสายพาน : เป็นใบเลื่อยที่มีลักษณะเป็นสายยาวต่อเนื่องกัน มีฟันเรียงรายอยู่ตลอดสาย เหมาะสำหรับตัดวัสดุที่มีความหนาและแข็ง เช่น ไม้ โลหะ และพลาสติก ข้อดีคือ สามารถตัดวัสดุที่มีความหนาได้มาก และสามารถตัดตามแนวโค้งได้ ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูง และต้องใช้เครื่องมือที่เฉพาะเจาะจง

   • ใบเลื่อยตัดเหล็ก : มีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กบางๆ มีฟันที่คมและแข็งแรง เหมาะสำหรับตัดเหล็กและโลหะอื่นๆ ข้อดีคือ ราคาไม่แพง และสามารถพกพาได้สะดวก ข้อเสียคือ ตัดช้า และต้องใช้แรงในการตัดค่อนข้างมาก

   • ใบตัดไฟเบอร์ : มีลักษณะเป็นแผ่นกลมแบน มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ เหมาะสำหรับตัดวัสดุที่มีความหนา เช่น เหล็กและโลหะ ข้อดีคือ ตัดได้เร็วและแรง ข้อเสียคือ เกิดความร้อนสูง และอาจทำให้วัสดุที่ตัดเสียรูปได้

   • ใบตัดเพชร : ทำจากเพชรสังเคราะห์ เหมาะสำหรับตัดวัสดุที่แข็งมาก เช่น หิน คอนกรีต และกระเบื้อง ข้อดีคือ ตัดได้ทุกชนิดของวัสดุที่แข็ง ข้อเสียคือ ราคาแพงมาก และต้องใช้เครื่องมือที่รองรับใบเลื่อยเพชร

   • ใบเลื่อยชัก : มีลักษณะคล้ายดาบ เหมาะสำหรับตัดไม้ในที่แคบและงานที่ต้องการความแม่นยำ ข้อดีคือ พกพาสะดวก และใช้งานได้หลากหลาย ข้อเสียคือ ตัดช้า และต้องใช้แรงในการตัด

   • ใบเลื่อยลันดา : หรือที่เรียกกันติดปากว่าใบเลื่อยมือ เป็นใบเลื่อยที่ใช้กับเลื่อยมือทั่วไป ข้อดีคือ พกพาสะดวก ราคาถูก ข้อเสียคือ ตัดช้า เหมาะสำหรับงานไม้ทั่วไป ซ่อมแซมเล็กน้อย

   • วัสดุที่ต้องการตัด : เลือกใบเลื่อยที่ออกแบบมาสำหรับตัดวัสดุชนิดนั้น ๆ

   • ความหนาของวัสดุ : เลือกใบเลื่อยที่มีความหนาของแผ่นใบเลื่อยที่เหมาะสมกับความหนาของวัสดุ

   • ความเร็วในการตัด : ใบเลื่อยที่มีจำนวนฟันมากจะตัดช้า แต่ให้ผิวตัดที่เรียบเนียนกว่า

   • ความเรียบเนียนของผิวตัด : หากต้องการผิวตัดที่เรียบเนียน ควรเลือกใบเลื่อยที่มีจำนวนฟันมาก

   • เครื่องมือที่ใช้ : เลือกใบเลื่อยที่เข้ากันได้กับเครื่องมือที่คุณมี

การเลือกใบเลื่อยที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานช่าง การทำความเข้าใจประเภทของใบเลื่อยและปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกใบเลื่อย จะช่วยให้คุณเลือกใบเลื่อยที่เหมาะสมกับงานของคุณได้อย่างถูกต้อง และทำให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่ายแผ่นตัด ใบเลื่อย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว เลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308