ติดแน่นเหมือนตอกตะปู กาวตะปูใช้ทำอะไรได้บ้าง

การตอกตะปู เจาะผนัง เพื่อติดตั้งชั้นวางของ ติดกระจก อาจเป็นสิ่งที่วุ่นวาย สร้างความยากลำบาก และบางคนอาจไม่อยากเจาะให้ผนังบ้านเป็นรู ในบทความนี้พี่ไทจึงขอนำเสนอ “กาวตะปู” อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยให้คนที่ชอบติดแต่ไม่ชอบตอก ไม่ชอบเจาะ ทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

กาวตะปู คือกาวอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับยึดติดวัสดุต่าง ๆ แทนตะปู ดังนั้นคำว่ากาวในที่นี้จึงไม่ได้หมายถึงกาวที่ใช้กับตะปู แต่หมายถึงกาวที่สามารถใช้แทนตะปู มีความแน่น มีแรงยึดติดสูง เหมือนกับการตอกด้วยตะปูนั่นเอง นอกจากนี้กาวตะปูยังสามารถยึดเกาะกับวัสดุได้หลายชนิด ใช้กับพื้นผิวได้หลายรูปแบบ ใช้งานสะดวก แห้งเร็ว ไม่เสียเวลาในการติดตั้ง ช่างมือใหม่ หรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับงานช่างก็สามารถใช้กาวตะปูได้อย่างไม่ยากเย็น และไม่เพียงแต่ติดชั้นวางของ ติดกระจกเข้ากับผนังบ้าน แต่สามารถใช้กาวตะปู เพื่อยึดติดวัสดุต่าง ๆ ได้ตามต้องการอีกด้วย

ประเภทของกาวตะปู

กาวตะปูสูตรน้ำ

เป็นกาวตะปูที่มีส่วนผสมของน้ำ ทำให้กาวไม่มีกลิ่นฉุน ไม่แสบจมูก มีสีขาวขุ่น คล้ายกับกาวทั่ว ๆ ไป เหมาะกับการใช้งานภายใน บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ พื้นผิวที่มีรูพรุน เช่น ไม้ คอนกรีต อิฐ กระเบื้องเซรามิก เป็นต้น ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะต้องไม่มีความชื้น และมีอุณหภูมิไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส

กาวตะปู สูตรน้ำ PL50 PATTEX รุ่น 1046771 ขนาด 400 กรัม สีขาว

รายละเอียดสินค้า คลิก

กาวตะปูสูตรน้ำมัน

เป็นกาวตะปูที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ส่งผลให้กาวมีกลิ่นฉุน แสบจมูก แต่มีคุณสมบัติในการใช้งานที่หลากหลายกว่ากาวตะปูสูตรน้ำ คือสามารถใช้งานได้ทั้งภายใน และภายนอก ใช้งานได้กับทุกวัสดุ ทุกพื้นผิว แห้งไว ยึดติดได้ดี มีความทนทานต่อสภาวะอากาศ ทนความร้อนได้ถึง 50 องศาเซลเซียส

กาวตะปู สูตรน้ำมัน TOA รุ่น FAST BOND ขนาด 320 กรัม สีครีม

รายละเอียดสินค้า คลิก

คุณสมบัติของกาวตะปู

• แข็งแรง ทนทาน มีแรงยึดเกาะสูง กาวตะปูมีความแข็งแรง มีความสามารถในการยึดติดกับพื้นผิวต่าง ๆ ได้ดี ไม่จำเป็นต้องใช้ตะปูหรือสกรูให้ยุ่งยาก โดยกาวตะปูสูตรน้ำมันสามารถรับน้ำหนักได้ 180 กิโลกรัม/ตารางเมตร ส่วนกาวตะปูสูตรน้ำสามารถรับน้ำหนักได้ 300 กิโลกรัม/ตารางเมตร

• ใช้ได้กับทุกพื้นผิว กาวตะปูสามารถยึดติดกับพื้นผิวได้หลากหลายประเภท เช่น ไม้ คอนกรีต โลหะ แก้ว เซรามิก พลาสติก หิน กระเบื้อง ฯลฯ แต่ก่อนใช้งานต้องเตรียมสภาพพื้นผิวให้แห้งสะอาด ปราศจากฝุ่น คราบสกปรก คราบน้ำมัน หรือเศษวัสดุต่าง ๆ เผื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

• แห้งเร็ว กาวตะปูสามารถแห้งได้ในเวลาประมาณ 3-5 นาทีแรก แต่อาจยังไม่แห้งสนิท ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ และความชื้น ถ้าหากต้องการให้วัสดุติดกันอย่างแน่นหนาควรใช้แรงกด หรือใช้เครื่องจับยึด ยึดวัสดุเข้าหากัน กาวตะปูจะแห้งเต็มที่ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

• ใช้งานง่าย เก็บไว้ใช้งานได้ กาวตะปูสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงแค่ตัดปลายหัวฉีด แล้วใส่กาวตะปูลงไปในปืนยิง บีบออกจากหลอดเมื่อต้องการใช้งาน ใช้ไม่หมดก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไปได้ แต่ต้องเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่มีความชื้น และไม่มีอุณหภูมิที่สูงจนเกินไป

• กันน้ำได้ดี ถ้าไม่แช่อยู่ในน้ำเป็นระยะเวลานาน กาวตะปูสามารถกันน้ำได้ และสามารถโดนน้ำได้ โดยที่จะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อการยึดเกาะของวัสดุ ยกเว้นแช่อยู่ในน้ำเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้กาวหลุดร่อน ลดประสิทธิภาพในการยึดเกาะ

ข้อควรระวังในการใช้งานกาวตะปู

• ควรใช้ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี กาวตะปูสูตรน้ำมัน จะปล่อยสารระเหยที่มีกลิ่นแรง และฉุน อาจทำให้เกิดการอาการระคายเคืองต่อดวงตา และระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นควรใช้งานในที่ที่มีการระบายอากาศดี อากาศถ่ายเท

• สวมอุปกรณ์ป้องกัน บางคนอาจละเลย เพราะคิดว่าไม่มีความสำคัญ แต่พี่ไทขอแนะนำให้สวมถุงมือระหว่างการใช้งานกาวตะปู เพื่อป้องกันการกาวตะปูสัมผัสกับผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ และถ้าเป็นกาวตะปูสูตรน้ำมัน แนะนำให้สวมหน้ากากด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมโดยตรงครับ

• เก็บให้พ้นมือเด็ก เนื่องจากสสารประกอบในกาวตะปูมีอันตราย จึงควรเก็บให้พ้นมือเด็กเพื่อป้องกันอันตรายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด

กาวตะปู สมเป็นกาวเอนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้ครบจบในหลอดเดียว จะซ่อมแซม จะต่อเติม จะติดตั้งอะไรก็ง่ายไปหมดครับ

ขอบคุณภาพจาก: karolinakozkowna.pl