หลอดไฟเสียเกิดจากอะไรได้บ้าง และวิธีเปลี่ยนหลอดไฟด้วยตัวเอง

หลอดไฟ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตแสงสว่างที่มีทุกบ้าน เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นแสง สร้างความสว่างให้เกิดขึ้นภายในที่พักอาศัย ดังนั้นในยามที่หลอดไฟมีปัญหาความสว่างที่เคยได้รับก็จะหายไป เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะหลอดไฟก็ย่อมมีอายุการใช้งาน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปทันทีถ้าเรารู้จักวิธีการตรวจสอบ วิธีการแก้ไข รวมไปถึงวิธีการเปลี่ยนหลอดไฟด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียเวลารอช่าง อ่านบทความนี้จบแล้วพี่ไทรับรองได้ว่าเปลี่ยนหลอดไฟเป็นแน่นอน

วิธีตรวจสอบหลอดไฟเสีย

การตรวจสอบหลอดไฟว่าเสียหรือไม่นั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหลอดไฟ ซึ่งอาการต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้

1. หลอดไฟเปิดไม่ติด

สันนิษฐานได้เบื้องต้นเลยว่าหลอดไฟขาด หลอดขาดคือสภาวะที่หลอดไฟไม่สามารถให้แสงสว่างได้ อาจเกิดจากหลอดไฟเสียหายภายใน หรือมีส่วนประกอบบางส่วนชำรุด ทำให้วงจรไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่

2. ไฟติด ๆ ดับ ๆ หรือใช้เวลานานกว่าจะสว่าง

อาจเกิดจากหลอดไฟใกล้ขาด จึงไม่สามารถให้แสงตามปกติได้ ต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ แต่ในกรณีที่เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ อาจมีปัญหาที่บัลลาสต์ หรือสตาร์ตเตอร์ ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เช่นเดียวกัน

3. ความสว่างของหลอดไฟลดลง

หากหลอดไฟสว่างน้อยลงกว่าเดิม อาจเป็นสัญญาณว่าหลอดไฟใกล้จะหมดอายุการใช้งาน ต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่

จากการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลอดไฟ โดยส่วนมากแล้วมักจะไปลงเอยที่การเปลี่ยนหลอดไฟ ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด หากหลอดไฟอันใหม่ติด แสดงว่าหลอดไฟอันเก่าเสีย

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนหลอดไฟ

หลอดไฟใหม่ เลือกหลอดไฟที่มีขนาด และชนิดตรงกับหลอดไฟเดิม แนะนำให้นำหลอดไฟที่เสียติดไปที่ร้านขายหลอดไฟด้วย ให้เจ้าหน้าที่ภายในร้านช่วยดู เปรียบเทียบว่าของใหม่ตรงกับของเดิมหรือไม่ จะได้ไม่เกิดความผิดพลาดในการซื้อ

บันได หากหลอดไฟอยู่สูงเกินเอื้อมให้ใช้บันได อย่าพยายามเอื้อมหรือเขย่ง อาจเกิดอันตรายระหว่างการเปลี่ยนหลอดไฟ

ถุงมือ สวมถุงมือในระหว่างการเปลี่ยน ช่วยให้หยิบหลอดไฟได้กระชับมือมากขึ้น และป้องกันอันตรายหากหลอดไฟแตกระหว่างการเปลี่ยน

วิธีการเปลี่ยนหลอดไฟ

ปิดสวิตช์ไฟ ก่อนเริ่มเปลี่ยนหลอดไฟ ควรปิดสวิตช์ไฟที่ควบคุมหลอดไฟในบริเวณดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย หรือถ้าให้มั่นใจมากยิ่งขึ้น แนะนำให้สับคัตเอาท์ลงให้เรียบร้อยเสียก่อน

ถอดหลอดไฟเก่า สวมถุงมือให้เรียบร้อย หากหลอดไฟอยู่สูงเกินไป ให้ใช้บันไดช่วย จับหลอดไฟอย่างเบามือ หลังจากนั้นหมุนหลอดไฟทวนเข็มนาฬิกา เพื่อคลายเกลียว จนสามารถดึงหลอดไฟออกมาได้

ติดตั้งหลอดไฟใหม่ จับหลอดไฟใหม่ให้แน่น หมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อขันเกลียวหลอดไฟ พอแน่นแล้วให้ตรวจสอบว่า ขั้วหลอดไฟเข้ากับฐานหลอดไฟได้หรือไม่ จับขยับไปมาตรวจสอบดูว่าหลวมหรือไม่ ถ้าแน่นดีแล้วก็แสดงว่าติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์

เปิดสวิตช์ไฟ ตรวจสอบว่าหลอดไฟใหม่ทำงานได้ปกติดีหรือไม่

วิธีดูแลหลอดไฟให้อายุการใช้งานยาวนาน

การดูแลหลอดไฟอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้อายุการใช้งานของหลอดไฟยาวนานขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า และลดความเสี่ยงต่ออันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้อีกด้วย

ทำความสะอาดหลอดไฟ ฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามหลอดไฟ ทำให้ความสว่างของหลอดไฟลดลง ปิดไฟ สับคัตเอาท์ ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าบิดหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาด ปีละ 2 ครั้ง

หลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาจทำให้หลอดขาดได้ง่าย เพราะภายในหลอดไฟมีความเปราะบางมากเป็นพิเศษ

หลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟในที่ชื้น ความชื้นอาจทำให้เกิดสนิม และทำให้หลอดไฟเสียหายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

หากหลอดไฟขาดบ่อย ควรปรึกษาช่างไฟฟ้า ในกรณีนี้ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่หลอดไฟ แผงวงจรการเดินไฟอาจมีปัญหา ให้ช่างผู้มีความชำนาญมาตรวจสอบจะดีกว่า

ท้ายที่สุดแล้วหากไม่มั่นใจ หรือไม่แน่ใจในเรื่องการเปลี่ยนหลอดไฟด้วยตนเอง พี่ไทขอแนะนำให้สอบถามช่างผู้มีความเชี่ยวชาญ หรือจ้างช่างมาช่วยเปลี่ยนหลอดไฟจะเป็นการดีกว่าฝืนทำไปด้วยความไม่รู้ จนอาจเกิดอันตรายตามมาได้