ยืดอายุการใช้งานรถเข็น ด้วยวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง
การที่เราจะเคลื่อนย้ายวัตถุหรืออุปกรณ์บางอย่างที่มีน้ำหนักมากเกินกว่าจะยกไหวเราจะมักจะใช้เครื่องทุ่นแรงอย่างรถเข็นคอยช่วยเคลื่อนที่วัตถุดังกล่าวให้ไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น แต่ใช่ว่ารถเข็นหนึ่งคันจะสามารถเข็นเคลื่อนย้ายทุกอย่างได้ตามใจต้องการ เพราะรถเข็นก็มีข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จำเป็นต้องรู้เอาไว้เพื่อให้เกิดการใช้งานที่ถูกต้องตามมา ดังนั้น ในบทความนี้พี่ไทจะพาผู้อ่านทุกคนไปทำความเข้าใจวิธีใช้งานรถเข็นว่าจำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง
กำลังโหลดของรถเข็น
การจะใช้รถเข็นให้ได้เต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานได้ดีที่สุด เราต้องรู้จักกับกำลังของรถเข็นเสียก่อน กำลังรถเข็นพูดแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือน้ำหนักที่รถเข็นจะสามารถบรรทุกได้นั่นเอง โดยก่อนซื้อรถเข็นเราต้องทำการคำนวณก่อนว่าน้ำหนักสูงสุดที่เราจะบรรทุกอยู่ที่กี่กิโล หลังจากนั้นให้คาดการณ์เผื่อจากที่คำนวณไว้สัก 25% เป็นการป้องกันไว้ก่อน เช่น ถ้าต้องการรถเข็นที่บรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 200 กิโลกรัม แนะนำให้ซื้อรถเข็นที่น้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 250 กิโลกรัม และควรใช้บรรทุกของที่ไม่เกินจากกำลังโหลดของรถเข็นเพื่อยืดอายุการใช้งาน
ล้อของรถเข็น
ล้อรถเข็น ถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะต้องคอยแบกรับน้ำหนักทั้งหมดของรถเข็น ดังนั้น ควรตรวจเช็คสภาพล้อรถเข็นให้ดีทั้งก่อน และหลังการใช้งาน ถ้าล้อรถเข็นข้างใดข้างหนึ่งมีปัญหาจะทำให้บาลานซ์ของรถเข็นลดลง น้ำหนักที่บรรทุกได้ก็จะลดลงตามมา ส่วนล้อรถเข็นข้างที่ไม่มีปัญหาจะต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น ดังนั้นถ้าพบปัญหาที่ล้อควรรีบแก้ไข อย่าฝืนใช้งาน เพราะจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง นอกจากนี้ล้อยังเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นมากที่สุด ดังนั้นล้อกับสภาพพื้นต้องสัมพันธ์กัน ถึงจะช่วยยืดอายุการใช้งาน
• ล้อพลาสติก พบได้ในรถเข็นทั่วไป ทนทานต่อการสึกหลอน้อยกว่าล้อชนิดอื่น ราคาถูก เหมาะกับพื้นเรียบ ภายในอาคาร
• ล้อยางแข็ง มีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหลอ เหมาะสำหรับใช้บนพื้นที่มีความขรุขระ
• ล้อยางนิ่ม มีการเคลื่อนที่ที่นุ่มนวล ดูดซับแรงกระแทกได้ดี เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ภายในอาคาร
• ล้อโพลียูรีเทน มีความแข็งแรงทนทาน เคลื่อนที่ได้อย่างนุ่มนวล ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
• ล้อเหล็ก มีความแข็งแรงมากที่สุด รับน้ำหนักได้เป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรม
พื้นรถเข็น
พื้นรถเข็น เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของรถเข็น วัสดุที่นำมาทำพื้นรถเข็นนั้นมีหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันไป การเลือกพื้นรถเข็นให้เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยให้รถเข็นของเราสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
• พื้นรถเข็นพลาสติก เป็นวัสดุที่เบา ทนทานต่อการกัดกร่อน และทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป เช่น รถเข็นภายในบ้าน รถเข็นสำหรับขนย้ายของเบา ๆ
• พื้นรถเข็นเหล็ก มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก และสามารถรับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับใช้งานหนัก เช่น รถเข็นในโรงงานอุตสาหกรรม รถเข็นสำหรับขนย้ายวัสดุก่อสร้าง
• พื้นรถเข็นสแตนเลส มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น หรือสัมผัสกับสารเคมี เช่น รถเข็นในโรงงานอาหาร รถเข็นในห้องปฏิบัติการ
วิธีดูแลรถเข็น
เพื่อให้รถเข็นใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจำเป็นที่จะต้องหมั่นดูแลรถเข็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถเข็นที่ใช้งานบ่อย ๆ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
• ทำความสะอาดเป็นประจำหลังจากใช้งานทุกครั้ง โดยเฉพาะรถเข็นที่ใช้ในพื้นที่เปียก หรือใช้งานกลางฝน ควรเช็ดให้แห้งสนิทก่อนเก็บ
• เก็บในพื้นที่ที่เหมาะสม เช่น พื้นที่แห้ง พื้นที่ไม่โดนแดด เก็บในห้องเก็บของ
• ตรวจสอบสภาพของล้อ หากพบว่าล้อสึกหลอหรือเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
• ตรวจสอบส่วนที่เคลื่อนไหว เช่น บานพับ จุดเชื่อมต่อต่าง ๆ ว่ามีสภาพสมบูรณ์หรือไม่ หากพบว่ามีส่วนใดชำรุด ควรซ่อมแซมทันที
• หยอดน้ำมันหล่อลื่น เพื่อลดการเสียดสีและยืดอายุการใช้งาน
การใช้งานรถเข็นมีอะไรมากกว่าแค่การเข็นไปเข็นมาแต่เพียงอย่างเดียว ยังคงมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่จำเป็นต้องรู้ไว้ก่อนใช้งาน เพื่อให้เกิดการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานได้อย่างยืนยาว สามารถนำข้อมูลข้างต้นนี้ไปปรับใช้กับการเลือกใช้งานรถเข็นด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพื่อยืดอายุการใช้งานกันได้เลยครับ
ขอบคุณภาพจาก: fabproengg.com
• เลือกช้อปรถเข็น ครบ ถูกและดี ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่ ๆ ที่น่าสนใจ
สินค้าแนะนำ