ไฟดาวน์ไลท์ ทำไม Interior ยุคใหม่เลือกใช้
“ไฟดาวน์ไลท์” คืออะไร?
โคมไฟดาวน์ไลท์ เป็นโคมไฟที่จะให้แสงสว่างแบบ “ส่องลง” ทำให้แสงสว่างถูกกระจายตัวอยู่ด้านล่าง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่กลับให้การใช้งานที่เหนือชั้นกว่า ความนิยมในการนำมาใช้ตามห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งให้ประโยชน์ ช่วยเติมแสงสว่างให้กับห้องได้มากพอ ไม่กินพื้นที่ห้องที่มีพื้นที่จำกัด จึงไม่ต้องเป็นกังวลกับปัญหา ด้วยความกะทัดรัด และยังประหยัดพลังงาน จึงกลายเป็นทางเลือกที่ถูกนำมาใช้เป็นโคมไฟสำหรับบ้านยุคโมเดิร์น ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูสบายตามากเป็นพิเศษ
โคมดาวน์ไลท์ LED คุณประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม
โคมไฟดาวน์ไลท์ LED หลอดไฟทางเลือกใหม่ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่การให้ความสว่างในปริมาณมาก แต่กินไฟน้อย มีขนาดเล็ก สามารถใช้งานได้ยาวนาน ตั้งแต่ 20,000 ถึง 50,000 ชั่วโมง สามารถเปิด-ปิดได้บ่อยเท่าไรก็ได้ตามที่ต้องการหมดปัญหาเรื่องหลอดขาดและความยุ่งยากในการเปลี่ยนหลอด
ประเภทของไฟดาวน์ไลท์
ไฟดาวไลท์แบบฝังใต้ฝ้า (Recessed Downlight)
เป็นการฝังโคมอยู่ใต้ฝ้าทั้งหมด จะดูกลมกลืนไปกับฝ้าเพดาน เห็นเพียงหน้าโคมเท่านั้น ทำให้มีความสวยงามสบายตา จึงเป็นไฟดาวน์ไลท์ที่นิยมใช้งานมากที่สุด โดยเฉพาะในบ้าน ที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร รวมถึงโรงแรม หรืออาคารสำนักงานต่าง ๆ
โคมดาวน์ไลท์หน้าเหลี่ยม 4 นิ้ว LED 12W Daylight EVE LIGHTING รุ่น Phantom SQ 12W-6500K สีขาว
ไฟดาวไลท์แบบติดลอย (Surface Downlight)
หากอยากได้ไฟที่ให้ความสวยงาม เป็นของตกแต่งห้องให้ดูน่าสนใจมากขึ้น ไฟดาวน์ไลท์แบบติดลอยจะให้เราเห็นตัวโคมอย่างชัดเจน มักเลือกใช้งานกับตัวห้องที่ไม่มีโครงฝ้า เน้นใช้ไฟเป็นหลัก มีหลายดีไซน์ หลายขนาดให้เลือกตามต้องการ
โคมดาวน์ไลท์ติดลอยกลม 4 นิ้ว E27x1 EVE LIGHTING รุ่น เพชร EL-0401RD 4 BK สีดำ
ไฟดาวไลท์แบบห้อยเพดาน (Pendant Luminaire)
เราอาจจะเคยเห็นโคมไฟที่มีสายห้อยลงมาจากฝ้าเพดาน ซึ่งนั่นเราเรียกว่า ไฟดาวน์ไลท์แบบห้อยเพดาน มีความโดดเด่น ดีไซน์หลากหลาย ได้ทั้งแสงสว่างและตกแต่งห้องได้ในตัวพร้อมกัน
โคมพาแนลไลท์ติดลอย LED-T8 1x18W EVE LIGHTING รุ่น Hardy (1x18W) สีดำ
ไฟดาวไลท์แบบฝังกึ่งลอย (Semi Recessed Downlight)
ตัวโคมจะฝังอยู่ในฝ้าเพดานและจะมีส่วนหน้าโคมที่ยื่นออกมาเพียงเล็กน้อย ไฟดาวน์ไลท์ประเภทนี้จะช่วยลดพื้นที่ใต้ฝ้า เหมาะสำหรับการติดตั้งในทุกที่อยู่อาศัยที่ต้องการเพิ่มลูกเล่นให้เพดาน ให้ความสว่างและความสวยงามไปพร้อมกัน
โคมไฟดาวน์ไลท์ติดลอยกลม 7 นิ้ว LED 25W Cool White EVE LIGHTING รุ่น RD เอลลี่ 25W CW สีขาว
ลักษณะของไฟดาวน์ไลท์ ยังสามารถแบ่งออกได้อีก 3 แบบ ดังนี้
1. ไฟดาวน์ไลท์ที่สามารถเปลี่ยนหลอดได้ (Downlight Retrofit) มีทั้งแบบเกลียว ขั้วเสียบ และขั้วอื่น ๆ นิยมใช้มากที่สุด หาซื้อง่าย เช่น E14, E27 หรือ ขั้วเสียบ GU5.3, GU10, G9
2. ไฟดาวน์ไลท์ที่มีเม็ดไฟ LED ภายใน เชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน (Downlight LED Build-in) อายุการใช้งานยาว ขนาดเล็ก ให้แสงสว่างมาก ประหยัดค่าไฟ นิยมใช้กับตู้โชว์ ชั้นวางสินค้า มากกว่าฝ้าเพดาน เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนหลอดได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด ควรมีชุดหลอดไฟสำรองเอาไว้ เพราะร้านค้าที่จำหน่ายจะมีไม่เหมือนกัน
ในด้านของจุดเด่นของ Downlight LED build in ก็คือ
• มีอายุการใช้งานยาวนาน อยู่ในช่วงระหว่าง 30,000 – 50,000 ชั่วโมง (ขึ้นกับคุณภาพเม็ดหลอด LED และ แผงระบายความร้อน)
• ขนาดโคมไฟค่อนข้างเล็ก แต่ให้แสงสว่างมาก (Downlight Retrofit จะมีหน้าโคมขนาดใหญ่กว่า)
• เมื่อขึ้นชื่อว่า LED แน่นอนว่ากินไฟน้อย จึงช่วยประหยัดค่าไฟของเราได้มาก
ข้อสังเกตของ Downlight LED build in คือมักมีแผงระบายความร้อนขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง (เมื่อเทียบกับขนาดโคมไฟทั้งตัว) ซึ่งช่วยให้เม็ดหลอด LED เสื่อมช้าลง และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
3. ไฟดาวน์ไลท์ ประเภท Replaceable LED Module เป็นการรวมตัวจากทั้งแบบ Retrofit และ LED Build-in มีส่วนหน้าโคมและหลอด LED สามารถถอดประกอบได้ โดยมีหน้าโคมอันเดิมอยู่ แต่ปัจจุบันยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก
วิธีติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ ให้ถูกตำแหน่งทำได้อย่างไร?
การกำหนดตำแหน่ง ในการติดตั้ง ไฟดาวน์ไลท์ในแต่ละห้อง มีความแตกต่างกัน ดังนี้
• ห้องนอน: ระยะห่างในการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์แต่ละดวง ควรเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร
• ห้องทำงาน: ระยะห่างในการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์แต่ละดวง ควรเว้นระยะห่าง 0.8 เมตร
• ห้องนั่งเล่น: ระยะห่างในการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์แต่ละดวง ควรเว้นระยะห่าง 1 เมตร
โดยห้องเหล่านี้ เป็นการคำนวณที่ความสูงราว 2.5 เมตร นอกเหนือจากนี้ จำเป็นต้องคำนึงถึงขนาดของโคมไฟ ว่ามีขนาดเล็ก หรือใหญ่ เพื่อให้สามารถเลือกซื้อหลอดไฟที่มีจำนวนวัตต์เหมาะสมกันมากที่สุด การจับคู่ระหว่างตัวโคม และหลอดไฟ ยังต้องนึกถึงความสวยงามในการใช้งาน เมื่อติดตั้งแล้วหลอดไฟ ไม่ควรโผล่ออกมาด้านนอกโคม เพราะจะทำให้ไฟแยงตา และที่สำคัญ อย่าลืมเลือกซื้อเป็นหลอดประหยัดไฟที่ช่วยระบายความร้อน ยืดอายุการใช้งาน และลดค่าไฟไปในตัวอีกด้วย
ข้อควรพิจารณาในการติดตั้งใช้งาน มีดังนี้
• รัศมีส่องสว่างของไฟดาวน์ไลท์ เพื่อให้ได้แสงสว่างที่เหมาะสม และพอเหมาะในการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ก่อนการเลือกซื้อ ไฟดาวน์ไลท์ติดฝ้า ควรสังเกตที่ข้างกล่องก่อนการเลือกซื้อ โดยบริเวณข้างกล่อง จะแสดงข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างความกว้างของรัศมีแสงไฟ กับความสูงของดวงโคม เพื่อบอกระยะห่างของดวงโคมไฟ ช่วยให้ง่าย และสะดวกในการกำหนดตำแหน่งในการติดตั้ง จำนวนหลอดไฟ และความสูง เมื่อต้องติดตั้งในพื้นที่จริง
• การสะท้อนของแสงไฟ มีให้เลือกใช้งานตามความต้องการ และความเหมาะสม 3 ประเภท คือ
1. แบบที่ให้แสงสว่างอย่างเต็มที่ จะเป็นผิวเรียบมันวาว หรือเรียกว่า Clear Anodized
2. แบบที่ให้แสงเป็นประกาย เฉพาะจุด จะเป็นผิวมัน แต่มีมุมที่หักเหแสง หรือเรียกว่า Beehive Facet
3. แบบที่ให้แสงนุ่มนวล เป็นประกาย จะเป็นผิวเหลี่ยม มีมุมหักเหแสง หรือ Sand Blast & Line Facet
• ขนาดความสูงของโคมไฟ ขนาดความสูงของโคมไฟ เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง จำเป็นต้องมีช่องว่างระหว่างการติดตั้ง และเลือกให้พอดี เหมาะสมกับพื้นที่ผนังเพดานที่จะติดตั้ง เพราะจะช่วยระบายความร้อนขณะเปิดใช้งาน โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเว้นระยะห่างในการติดตั้งอย่างน้อย 5 เซนติเมตร
ไฟดาวน์ไลท์เลือกใช้งานได้อย่างไร
การเลือกใช้งานไฟดาวน์ไลท์ไม่ว่าจะเป็นประเภท ไฟดาวน์ไลท์ติดฝ้า ไฟดาวน์ไลท์ติดลอย ไฟดาวน์ไลท์สี่เหลี่ยม แนะนำให้ใช้คู่กับหลอดประหยัดไฟ โดยสามารถติดตั้งได้ทั้ง แนวดิ่ง และแนวนอน ซึ่งการติดตั้งมีความแตกต่างกัน ดังนี้
• การติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ ในลักษณะแนวนอน ลักษณะของไฟ จะกระจายตัวในบริเวณกว้าง เหมาะสำหรับการติดตั้งบนผนังเพดานแคบ
• การติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ ในลักษณะแนวดิ่ง หรือแนวตั้ง เป็นที่นิยมใช้ เพราะจะกระจายความร้อนได้ดีกว่า การติดตั้งในแนวนอน แต่จำเป็นต้องกำหนดจุดติดตั้งให้ดีเสียก่อน เพราะแสงไฟดาวน์ไลท์ ที่ติดตั้งในลักษณะแนวดิ่ง อาจจะรบกวนขณะนั่งทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวได้ หลอดไฟที่ใช้งานส่วนใหญ่ จะเป็นหลอดตะเกียบ
• เลือกช้อปสินค้าแบรนด์ EVE Lighting ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สินค้าแนะนำ