ผ้าห่ม Cooling เทคโนโลยีเย็น ๆ ที่เปลี่ยนการอนหลับให้สบายตลอดคืน
ความร้อนรุ่มจากอากาศภายนอก หรือแม้แต่ความร้อนภายในร่างกายนั้นส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ทำให้เราตื่นบ่อยและรู้สึกอ่อนล้าในตอนเช้า ถ้าได้นอนหลับพักผ่อนภายใต้ผ้าห่มที่ช่วยให้หลับได้สบายมากขึ้นก็คงจะดีไม่ใช่น้อย นวัตกรรม Cooling จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหานี้ โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับผ้าห่มเพื่อมอบความเย็นสบายให้กับผู้ใช้งานตลอดทั้งคืน ทำให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ใช่ทุกผ้าห่มจะมีเทคโนโลยี Cooling และไม่ใช่ทุกผ้าห่ม Cooling จะมีประสิทธิภาพเท่ากัน คุณสมบัติและเทคโนโลยีที่ใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่น ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
เปรียบเทียบผ้าห่ม Cooling กับผ้าห่มทั่วไป
เทคโนโลยีที่พบในผ้าห่ม Cooling
• เส้นใยไฮเทค : เช่น Outlast, ThermoCool เป็นเส้นใยที่สามารถดูดซับและปล่อยความร้อนได้ ทำให้อุณหภูมิของร่างกายคงที่ ซึ่ง Outlast เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในชุดนักบินอวกาศ ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน ThermoCool เป็นเส้นใยไฮเทคที่ช่วยระบายความร้อนและความชื้นได้อย่างรวดเร็ว
• เจลระบายความร้อน : ฝังเจลระบายความร้อนลงในเนื้อผ้า ช่วยดูดซับความร้อนและกระจายความร้อนออกไป ส่วนใหญ่มักพบได้ในหมอนหนุนมากกว่าผ้าห่ม
• ผ้าไมโครโมดัล : เป็นเส้นใยธรรมชาติจากเยื่อไม้ที่มีคุณสมบัติในการระบายความชื้นและความร้อนได้ดี แถมยังอ่อนโยนต่อผิวอีกด้วย
• การออกแบบโครงสร้างผ้า : ออกแบบโครงสร้างของผ้าให้มีช่องว่างอากาศ เพื่อเพิ่มการระบายอากาศและลดความร้อนสะสมก็เป็นส่วนสำคัญในการผลิตผ้าห่ม Cooling
รู้จักค่า Qmax ค่าที่วัดการถ่ายเทความร้อน
รู้จักผ้าห่ม Cooling กันไปแล้ว ในการเลือกซื้อผ้าห่มประเภทนี้ การสังเกตค่า Qmax (Maximum Heat Flux) ก็สำคัญเช่นกัน โดยค่า Qmax เป็นค่าที่ใช้ในการวัดอัตราการถ่ายเทความร้อนสูงสุดของวัสดุชนิดหนึ่ง ซึ่งในกรณีของผ้าห่ม ค่า Qmax จะบ่งบอกถึงความสามารถในการระบายความร้อนของผ้าห่มนั้น ยิ่งค่า Qmax สูงเท่าไหร่ ผ้าห่มก็จะยิ่งระบายความร้อนได้ดีเท่านั้น
ทำไมผ้าห่ม Cooling ถึงเป็นตัวเลือกที่ดี
ช้อปปิ้งสินค้า ผ้าห่ม ผ้านวม ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ