ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี
logo_mobile
search
เลือกสาขา
หน้าแรก
บทความ
ความหมายของ ค่า Fire Rating ถังดับเพลิง พร้อมวิธีการอ่านที่ควรรู้

ความหมายของ ค่า Fire Rating ถังดับเพลิง พร้อมวิธีการอ่านที่ควรรู้


เหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนจำนวนมาก การมีอุปกรณ์ดับเพลิงที่พร้อมใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การเลือกถังดับเพลิงที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ในเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากการอ่านค่า Class บนถังดับเพลิงแล้ว ค่า Fire Rating ที่อยู่แสดงอยู่บนฉลากของตัวถังก็ยังเป็นอีกหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ควรให้ความสนใจ แต่ด้วยความหลากหลายของชนิดของถังดับเพลิง ทำให้การเลือกซื้อถังดับเพลิงที่เหมาะสมกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก บทความนี้จะไขข้อข้องใจและอธิบายวิธีการเลือกถังดับเพลิงตามค่า Fire Rating อย่างง่าย ๆ มาฝากกันครับ

ค่า Fire Rating ในถังดับเพลิง คืออะไร

ค่า Fire Rating คือ ตัวเลขที่บอกถึงประสิทธิภาพในการดับไฟของถังดับเพลิงแต่ละชนิด และรวมถึงสามารถดับไฟประเภทใดได้บ้าง โดยจะแสดงเป็นตัวเลขกับตัวอักษรของ Class อยู่บนฉลากถังดับเพลิงที่ควบคู่กัน เช่น 2A-2B, 4A-10B, 6A-20B เป็นต้น โดยค่า Fire Rating นี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1. ประเภท A : หรือการดับไฟเชื้อเพลิงจากของแข็งทั่วไป เช่น ไม้ กระดาษ ยาง ขนสัตว์ พลาสติก โดยจะมีการแสดงด้วยตัวเลขเป็นตัวแรก ก่อนจะตามด้วยตัวอักษร ซึ่งความหมายของตัวเลขนั้น ยิ่งตัวเลขมีจำนวนมาก ก็หมายความกว่าถังดับเพลิงมีประสิทธิภาพการดับเพลิงไฟประเภท A มากขึ้นนั่นเอง ดังตัวอย่างตามภาพด้านล่างจะเห็นว่าขนาดกองเพลิงที่เล็ก ก็อาจใช้เป็นถังดับเพลิง 1A และเมื่อกองเพลิงใหญ่ขึ้น สามารถใช้ถังดับเพลิงที่ระบุว่า 6A หรือ 10A ขึ้นไป ตามขนาดของกองเพลิงได้


2. ประเภท B : หรือการดับไฟเชื้อเพลิงจากของเหลว เช่น น้ำมันเบนซิน ทินเนอร์ ก๊าซ พลาสติก โดยจะมีการแสดงด้วยตัวเลขเป็นตัวแรก ก่อนจะตามด้วยตัวอักษรเช่นเดียวกันกับประเภท A และแน่นอนว่าความหมายของตัวเลขก็ไม่ต่างจากประเภท A ซึ่งยิ่งตัวมีจำนวนมาก ก็หมายความกว่าถังดับเพลิงมีประสิทธิภาพการดับเพลิงไฟประเภท B ยิ่งขึ้น หากคุณต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อเพลิงประเภทนี้ หรือเป็นผู้ประกอบการสถานที่เหล่านี้ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม โรงรถ ปั๊มน้ำมัน แน่นอนว่าปริมาณของเชื้อเพลิงคงจะสูงจนเกิดกองเพลิงขนาดใหญ่ไม่ใช่น้อย ดังนั้น ก็อาจเลือกใช้เป็นถังดับเพลิงที่ระบุว่า 10B 20B หรือ 30 ขึ้นไปได้


นอกจากนี้หลายคนอาจส่งสัยว่าถ้าตัวอักษรภาษาอังกฤษ คือ Class ถังดับเพลิง ที่แสดงควบคู่กับค่า Fire Rating แล้วทำไมเพียงแค่ 2 ประเภทเท่านั้น ? ทำไมถึงไม่มีให้ครบทุกตัวอักษรของค่า Class ? นั่นเป็นเพราะ Class A และ B เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันมากกว่า Class C, D และ K จึงได้มีการตั้งเกณฑ์ Fire Rating ที่เป็นตัวเลขขึ้นมาควบคู่เพื่อแสดงขึ้นประสิทธิการดับไฟให้ได้เลือกใช้ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ ถึงอย่างไรบนถังดับเพลิงที่สามารถใช้ในงานอื่นก็ยังคงระบุเป็นตัวอักษรหรือสี C, D และ K ให้เราเห็นบนถังดับเพลิงได้อย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถเลือกถังดับเพลิงที่เหมาะสมกับความเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ได้มากขึ้น และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการดับเพลิงเบื้องต้น

ตัวอย่างการอ่านค่า Fire Rating

ถังดับเพลิงในปัจจุบันมักจะระบุทั้ง 2 ประเภท ซึ่งจะมีค่า Fire Rating ทั้ง A และ B ตามภาพด้านล่าง แต่จะมีตัวเลขที่ต่างกันหรือเหมือนกันตามแต่เกณฑ์ของทางผู้ผลิตหรือหน่วยงานที่ประเมินค่าความสามารถในการดับไฟ


ตัวอย่างการอ่านค่า

ตามภาพข้างต้นคุณจะเห็นว่า มีค่า Fire Rating 4A:5B ซึ่งจะหมายความว่า ถังดับเพลิงนี้สามารถดับไฟประเภท A ได้ 4 หน่วย และไฟประเภท B ได้ 5 หน่วย โดยคำว่า “หน่วย” ในที่นี้ก็มีความหมายอีกว่า เทียบเท่ากับกองไฟมาตรฐานได้ 4 กอง ซึ่งเหมาะกับกองเพลิงปริมาณที่ค่อนข้างมาก หรือเหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงปานกลาง เช่น บ้านเรือน สำนักงาน หรือโรงงานขนาดเล็ก

ช้อปปิ้งสินค้า ถังดับเพลิง ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่าย ถังดับเพลิง หลากรูปแบบ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถเลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308