ระดับเสียงเดซิเบล ในเครื่องใช้ไฟฟ้า สำคัญอย่างไร ระดับไหนปลอดภัยกับคุณ
ปกติแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ เครื่องมือช่างต่าง ๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้น จะมีระบบการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องยนต์ ที่เมื่อเปิดใช้งานอาจทำให้เกิดเสียงดังรบกวนคุณหรือเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชน หมู่บ้าน ทาวน์โฮม ซึ่งหากใครที่ไม่ชอบเสียงดังมากแน่นอนว่า ก่อนที่เราจะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องมือช่าง มาใช้งาน อาจต้องคำนึงถึง ระดับเสียงเดซิเบล ของตัวเครื่องเบื้องต้นร่วมด้วย เพื่อป้องกันการรบกวนผู้อื่นและปัญหาสุขภาพให้กับตัวคุณ
ทำความรู้จักกับหน่วยการวัดเสียงเดซิเบล
เดซิเบล (Decibel : dBA) ถูกคิดค้นขึ้นโดยนักประดิษฐ์ชาวสกอตแลนด์-อเมริกันที่ชื่อว่า อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexender Graham Bell) อีกทั้งยังเป็นผู้คิดค้นโทรศัพท์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจจับโลหะ ฯลฯ ซึ่งเหตุผลที่เขาคิดหน่วยเดซิเบลขึ้นมาก็เพราะใช้ในการวัดความเข้มข้นหรือกำลังของคลื่นเสียง คลื่นสัญญาณอื่น ๆ ความดังของเสียง รวมถึงความไวของหูมนุษย์ เพราะเสียงที่เบาที่สุดที่มนุษย์ได้ยินนั้นจะอยู่ประมาณ 0.00000000002 ไมโครวัตต์ต่อตารางเมตร และเสียงดังที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทนได้จะอยู่ประมาณ 100 วัตต์ต่อตารางเมตร จะสังเกตว่าหน่วยในการวัดระดับเสียงนั้นค่อนข้างยาว และเข้าใจยากต่อการจดจำ จึงได้มีการแปลงค่าด้วยหลักการทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า ลอการิทึม เข้ามาช่วย จึงกลายเป็นหน่วย เดซิเบล (dBA) นั่นเอง
ระดับเสียงเดซิเบล เท่าไหร่ถึงปลอดภัยต่อการได้ยินเรา
หลังจากที่ทราบแหล่งที่มาและความหมายของเดซิเบลแล้ว เดซิเบลจะมีระดับสูงและต่ำที่มีความปลอดภัยมาก ปลอดภัยปานกลาง จนไปถึงอันตรายเกินกว่าที่หูของเราจะรับไหว งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ระดับไหนปลอดภัยต่อการได้ยินและระดับไหนที่ควรเลี่ยงมากที่สุด
- 0 dB – 20 dB : จัดอยู่ในระดับเสียงเบามาก ที่ดีต่อสุขภาพหู ซึ่งตัวอย่างของเสียงในระดับนี้หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ เสียงใบไม้ปลิว เสียงลมทหายใจคนนอนหลับ
- 30 dB – 40 dB : จัดอยู่ในระดับเสียงเบา ที่ดีต่อสุขภาพหูเช่นเดียวกัน แต่จะดังขึ้นมาจากเสียงระดับเบามากเล็กน้อย โดยตัวอย่างของเสียงระดับนี้ ได้แก่ เสียงผู้คนกระซิบ เสียงบรรยากาศภายในห้องสมุด
- 50 dB – 60 dB : จะมีระดับเสียงดังเพิ่มขึ้นมา จัดอยู่ในระดับปานกลาง ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพหูและการได้ยิน ตัวอย่างของเสียงในระดับนี้จะเป็นเสียงฝนตก เสียงคนกดคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ เสียงพูดคุยปกติ เสียงการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าในเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
- 70 dB – 80 dB : จัดอยู่ในระดับเสียงดัง ที่เริ่มสร้างความรำคาญใจให้คุณและผู้อื่น เพื่อความปลอดภัยควรอยู่ในสภาพแวดล้อมเสียงดังระดับนี้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ และไม่บ่อยครั้ง ตัวอย่างของเสียงในระดับนี้จะเป็นเสียงการทำงานของมอเตอร์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เครื่องยนต์ในเครื่องมือช่าง เครื่องยนต์ของรถยนต์ นกหวีด ฯลฯ
- 90 dB – 100 dB : จัดอยู่ในระดับเสียงดังมากที่ควรเลี่ยง และไม่ควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังนี้เป็นเวลานาน เพราะอาจทำลายระบบการได้ยินของคุณในทันที โดยตัวอย่างของเสียงในระดับเดซิเบลนี้ ได้แก่ เสียงเครื่องมือช่างไฟฟ้า เสียงค้อนทุบ เครื่องยนต์ เสียงเฮลิคอปเตอร์
- 110 dB – 150 dB ขึ้นไป : จัดอยู่ในระดับเสียงดังที่สุด และส่งผลอันตรายมากที่สุดในทันทีที่อาจทำให้แก้วหูของคุณแตกได้ เช่น เสียงหวอรถ เครื่องบิน ประทัด ฯลฯ
จากระดับเสียงที่เราได้ทำเป็นตัวอย่างมาข้างต้น ก็พอจะทราบกันคร่าว ๆ แล้วว่า เดซิเบลนั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพการได้ยิน รวมถึงสุขภาพกาย เพราะการที่คุณเกิดความรู้สึกหงุดหงิด ไม่สบายใจ อาจสามารถนำไปสู่พักผ่อนน้อย ความเครียด ขาดสมาธิ ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
สรุป การจะเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือช่างต่าง ๆ ที่มีระบบการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ นอกจากฉลากประหยัดไฟ ราคา ขนาด ฟังก์ชัน ควรจะคำนึงถึงระดับเสียงการทำงานร่วมด้วย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอีกหลายเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบการสวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างที่อุดหูก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความถี่ในการใช้งานที่ไม่บ่อยนัก หรือแม้แต่การพื้นที่บริเวณติดตั้งเพราะถ้าหากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องซักผ้าที่คุณนำไปวางนอกบ้าน ก็อาจไม่รบกวนต่อคุณและเพื่อนบ้านสักเท่าไหร่ มากไปกว่านั้น ปัจจุบันผู้ผลิตก็เริ่มมีการพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีขึ้น ลดการเกิดเสียงขณะเปิดใช้งาน จึงทำให้คลายความกังวลเรื่องเสียงไปได้เลยครับ
ช้อปปิ้งสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ
สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว เลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308