ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี
logo_mobile
search
เลือกสาขา
หน้าแรก
บทความ
6 ปัจจัย สำคัญที่ควรคำนึงถึง ก่อนซื้อแอร์เคลื่อนที่

6 ปัจจัย สำคัญที่ควรคำนึงถึง ก่อนซื้อแอร์เคลื่อนที่


แอร์เคลื่อนที่นับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ชอบความสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณอื่น ๆ ของบ้าน เพราะแอร์ติดผนัง แอร์ติดเพดาน หรือแอร์แขวนมักจะมีขนาดใหญ่และมีรูปแบบการติดตั้งที่อยู่กับที่ ซึ่งเหมาะกับติดตั้งกับห้องใดห้องหนึ่งที่ใช้งานบ่อยหรือยาวนานมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากความสะดวกในการใช้งานแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อแอร์เคลื่อนที่ยังมีอีก 6 ปัจจัยหลัก ๆ ด้วยกัน เรามาดูไปพร้อมกันดีกว่าว่ามีปัจจัยใดบ้าง

6 ปัจจัยก่อนซื้อแอร์เคลื่อนที่ มีอะไรบ้าง

1. เลือกขนาด BTU ตามขนาดของห้อง

ถึงแม้แอร์เคลื่อนที่จะสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ จึงทำให้หลายคนอาจคิดว่าการเลือกขนาด BTU เป็นปัจจัยที่ไม่สำคัญ แต่แท้จริงแล้วยังคงเป็นอีกปัจจัยที่ควรคำนึงถึง เพราะ BTU  เป็นหน่วยที่บ่งบอกถึงความสามารถในการทำความเย็นให้เหมาะกับขนาดห้อง มีส่วนช่วยให้แอร์เคลื่อนที่ไม่ทำงานหนักจนเกินไป ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยให้เราความเย็นได้ทั่วถึง โดยการประมาณขนาด BTU ของแอร์เคลื่อนที่ที่เหมาะกับขนาดห้อง มีดังนี้

  • แอร์เคลื่อนที่ขนาด 6,000 BTU ควรใช้กับห้องที่มีขนาด ห้อง 7 - 8 ตร.ม.
  • แอร์เคลื่อนที่ขนาด 8,000 BTU ควรใช้กับห้องที่มีขนาด ห้อง 9-11 ตร.ม.
  • แอร์เคลื่อนที่ขนาด 10,000 BTU ควรใช้กับห้องที่มีขนาด ห้อง 12 - 15 ตร.ม.
  • แอร์เคลื่อนที่ขนาด 12,000 BTU ควรใช้กับห้องที่มีขนาด ห้อง 16 - 21 ตร.ม.
  • แอร์เคลื่อนที่ขนาด 15,000 BTU ควรใช้กับห้องที่มีขนาด ห้อง 22 - 28 ตร.ม.
  • แอร์เคลื่อนที่ขนาด 18,000 BTU ควรใช้กับห้องที่มีขนาด ห้อง 29 - 34 ตร.ม.
  • แอร์เคลื่อนที่ขนาด 20,000 BTU ควรใช้กับห้องที่มีขนาด ห้อง 35 - 40 ตร.ม. 
การเลือกขนาด BTU ข้างต้น เป็นเพียงการประมาณคร่าว ๆ เพราะยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทิศทางของห้องว่าแดดเข้ามากหรือน้อยแค่ไหน ถ้าหากเป็นห้องที่แดดส่องตอนเช้าและตอนกลางวัน ความร้อนจะสะสมภายในห้องมากกว่าห้องที่ไม่โดนแสงแดด ซึ่งหากคุณนำไปใช้ห้องดังที่ยกตัวอย่างมา คุณอาจจะต้องเลือกแอร์เคลื่อนที่มี BTU สูง เพื่อไล่ความร้อนออกและเพิ่มความเย็นในห้องแทน
นอกจากนี้ยังต้องเช็กว่าบ้านคุมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนหรือไม่ เพราะถ้าหากมีการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยฉนวนก็จะมีส่วนช่วยลดอุณภูมิในห้อง จึงอาจจะไม่จำเป็นต้องเลือกแอร์เคลื่อนที่ที่มี BTU สูง

2. เลือกตามฟังก์ชันการใช้งาน


ในการเลือกฟังก์ชันควรเลือกตามพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของคุณเพื่อเพิ่มความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น การสั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรล ผ่านแอพลิเคชันทางสมาร์ทโฟนโดยที่คุณไม่ต้องลุกขึ้นไปปรับอุณหภูมิ หรือจะการตั้งเวลาเปิด-ปิด อัตโนมัติ โหมด Sleep ช่วยปรับอุณหภูมิให้พอดีขณะพักผ่อน ระบบฟอกอากาศ ระบบการดูดความชื้นและระบบการระเหยของน้ำ เพราะส่วนใหญ่บางรุ่นบางแบรนด์จะต้องนำน้ำไปทิ้งเองหรือต่อท่อน้ำทิ้งที่มีอุปกรณ์ต่อท่ออาจทำให้ขวางพื้นที่ใช้สอย 

3. การตรวจสอบความยาวท่อและมุมห้อง


เหตุผลที่ควรเช็กมุมห้องของตนเองในแต่ละพื้นที่ที่คุณต้องการนำแอร์เคลื่อนที่ไปใช้งานนั้น เพราะแอร์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่ต้องการการระบายความร้อนจากแผงคอยล์ร้อนออกผ่านทางท่อที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่องไปยังภายนอก เพื่อไม่ให้แอร์เคลื่อนที่ทำงานหนักจนเกินไป ป้องกันการเสื่อมสภาพเร็ว ทำให้ได้ความเย็นสม่ำเสมอ  ซึ่งความยาวของท่อที่บางแบรนด์ให้มาให้อาจไม่เพียงพอกับการต่อไปด้านนอก ดังนั้น ก่อนการเลือกซื้อจำเป็นต้องมีการเช็กความยาวของท่อจากการสอบถามพนักงานหรือตรวจข้อมูลสินค้า และวัดระยะจุดที่ควรวางแอร์เคลื่อนที่ โดยตำแหน่งที่เหมาะสมก็คือ จุดที่วางไว้ใกล้กับหน้าต่างและมีปลั๊กไฟในบริเวณใกล้เคียงร่วมด้วย แต่ถ้าไม่สามารถวางในจุดใกล้หน้าต่างได้ ก็จำเป็นต้องเจาะผนังเพื่อติดตั้งท่อระบายความร้อน จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงก่อนการเลือกซื้อ

4. เสียงการทำงานเครื่อง

 เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่มีคอมเพรสเซอร์มักจะมีเสียงดังในระหว่างการทำงาน รวมถึงแอร์เคลื่อนที่จะมีคอมเพรสเซอร์อยู่ภายใน ซึ่งแน่นอนว่าในระหว่างที่เปิดใช้งานก็สามารถส่งเสียงดังได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ตามห้องต่าง ๆ หากเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น รวมถึงห้องขนาดกว้าง การที่เสียงคอมเพรสเซอร์ดังก็อาจไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเมื่อนำไปใช้ในห้องนอนที่ต้องการความเงียบ เพื่อพักผ่อนก็อาจสร้างความรบกวนให้คุณเล็กน้อย ดังนั้น ทางออกที่ดีควรเลือกแอร์เคลื่อนที่ที่มีระบบการทำงานแบบ Inverter  เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ควบคุมการทำงานคอมเพรสเซอร์ช่วยให้มีเสียงที่เบาลงนั่นเอง

5. การดูแลรักษา

การดูแลรักษาความสะอาดย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพการทำงาน โดยสำหรับแอร์เคลื่อนที่นั้นคุณควรสอบถามถึงวิธีการดูแลทำความสะอาดเบื้องต้นในแต่ละรุ่นที่คุณสนใจ เพราะแอร์เคลื่อนที่บางรุ่นจะมีระบบการระเหยน้ำเอง ระบบการนำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ทำความเย็นใหม่ ทำให้คุณไม่ต้องเทน้ำทิ้งบ่อยครั้ง แต่ขณะเดียวกันบางรุ่นอาจจะยังต้องมีการเทน้ำทิ้งด้วยตัวเองอยู่ เพื่อความสะดวกควรเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์กับคุณมากที่สุด
ถึงอย่างนั้นนอกจากการเทน้ำทิ้งแอร์เคลื่อนที่ยังมีการทำความสะอาดฟิลเตอร์กรองอากาศ และตัวเครื่องภายนอก หากคุณเลือกรุ่นที่สามารถระเหยน้ำทิ้งเองได้ หรือระบบการน้ำน้ำกลับมาหมุนเวียน ก็จะช่วยให้ประหยัดเวลาและมีเวลาในการทำความสะอาดส่วนอื่น ๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

6. มาตรฐานการรับรองและการรับประกันสินค้า

แต่ละแบรนด์แต่ละรุ่นจะมีเงื่อนไขในการรับประกันสินค้าที่แตกต่างกันออกไป ก่อนการเลือกซื้อควรมีการสอบถามเงื่อนไข เพื่อนำมาเปรียบเทียบให้ตัวคุณได้สินค้าที่คุ้มค่าที่สุดไม่ว่าจะเป็นการรับประกันสินค้า การรับประกันคอมเพรสเซอร์ ศูนย์ซ่อมใกล้บ้าน 

นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่ามีการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือไม่ (มอก.) เพราะหมายถึงข้อกําหนดทางวิชาการที่สํานักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้กําหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพในระดับที่เหมาะสม

ช้อปปิ้งสินค้า แอร์เคลื่อนที่ ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งสินค้าเพื่อบ้านบนโลกออนไลน์ได้แล้ววันนี้กับ ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย จำหน่าย แอร์เคลื่อนที่ สั่งง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถเลือกรับสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง หรือเลือกรับสินค้าที่บ้าน บริการจัดส่งทั่วประเทศ สั่งผ่านออนไลน์ได้ที่ thaiwatsadu.com หรือติดต่อผ่านช่องทาง Chat & Shop LINE @thaiwatsadu โทร. 1308